สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ว่า องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป ( อีเอ็มเอ ) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รับรองการใช้ยาเม็ดรักษาโควิด-19 “แพกซ์โลวิด” ของบริษัทไฟเซอร์จากสหรัฐ ภายใต้เงื่อนไข คือ ใช้สำหรับผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ “ซึ่งมีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง” และ “ไม่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนเพิ่มเติม”


แม้อาสาสมัครส่วนใหญ่ที่ร่วมการทดสอบประสิทธิภาพของยาแพกซ์โลวิด เป็นผู้ที่ติดเชื้อเดลตา แต่อีเอ็มเอเชื่อมั่นว่า ยาตัวนี้จะมีประสิทธิภาพเพียงพอต้านทานเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ตัวอื่นเช่นกัน


อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดของไฟเซอร์ล้วนเป็นผู้ป่วยที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยาแพกซ์โลวิด ต่อผู้ป่วยซึ่งเป็นกลุ่มคนชราที่รับวัคซีนครบแล้ว ทั้งนี้ รายงานของอีเอ็มเอไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างเจาะจง แต่ระบุว่า ยาแพกซ์โลวิดถือเป็น “เกราะชั้นสอง” รองจากวัคซีน


ทั้งนี้ คณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ ( เอฟดีเอ ) ขึ้นทะเบียนรับรองยาแพกซ์โลวิด เมื่อปลายเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ภายใต้เงื่อนไขให้ใช้กับผู้มีอายุตั้งแต่ 12 ปี และผู้สูงอายุที่มีน้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 40 กิโลกรัม ซึ่งติดเชื้อแล้ว และมีแนวโน้มป่วยหนัก


สำหรับการรับประทานยาดังกล่าว ซึ่ง ที่ประกอบด้วยสูตรยาซึ่งไฟเซอร์คิดค้นเอง คู่กับยาริโทนาเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี ให้รับประทานทุก 12 ชั่วโมง ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน นับตั้งแต่ติดเชื้อ.

เครดิตภาพ : REUTERS