สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ว่านายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของออสเตรเลีย ว่าเขา "เสียใจเป็นอย่างยิ่ง" และ "ขออภัย" ต่อการที่รัฐบาลแคนเบอร์ราไม่สามารถบรรลุเป้าประสงค์ได้ตามที่วางแผนเอาไว้ เมื่อต้นปีนี้ มอร์ริสันยอมรับว่า แผนการจัดการและกระจายวัคซีนของออสเตรเลีย "ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 2 เดือน" 
10 News First
มอร์ริสันกล่าวต่อไปว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย สุขภาพของประชาชนทุกคนในประเทศขึ้นอยู่กับเขา และเขาต้องรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับโครงการฉีดวัคซีนแห่งชาติ ผู้นำออสเตรเลียยอมรับว่า การที่รัฐบาลเปลี่ยนแปลงแนวทางการใช้งานวัคซีนของแอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด ด้วยการระบุข้อกำหนดว่าจะฉีดให้กับผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีเท่านั้น ทำให้ประชาชนเกินความลังเล และส่งผลกระทบให้การแจกจ่ายวัคซีนต้องสะดุด ตอนนี้เขากำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้มีการทบทวนเงื่อนไขดังกล่าว ที่เป็นผลจากความกังวลต่อผลข้างเคียง ว่าการรับวัคซีนของแอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด อาจทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน
9 News Australia
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขของออสเตรเลียอนุมัติการใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินให้กับวัคซีนของแอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด กับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ขณะที่แม้มีความวิตกเรื่องผลข้างเคียง ภาครัฐเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี รับวัคซีนตัวนี้ได้ หากแพทย์เห็นชอบ
ปัจจุบัน สองรัฐใหญ่ของออสเตรเลีย คือรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลตา และรัฐนิวเซาท์เวลส์ยืนยันผู้ป่วยใหม่ 124 คน เป็นสถิติสูงที่สุดในรอบ 16 เดือน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES