เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ห้องเก็บศพโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา นางสมพิศ โลเกตุ อายุ 48 ปี มารดา พร้อมญาติได้เดินทางมายื่นเอกสารหลักฐานเพื่อติดต่อขอรับศพนายอนันต์ หรือบอย โลเกตุ อายุ 27 ปี นักกิจกรรมเคลื่อนไหวรณรงค์ Vote No ประชามติรัฐธรรมนูญ (รธน.) ปี 2560 ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา สภาพแขวนคอในศาลาข้างที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา แพทย์เวรนิติเวชระบุขาดอากาศหายใจ เนื่องจากแขวนคอ โดยนางสมพิศ ผู้เป็นแม่ได้เช่าเหมารถให้เคลื่อนย้ายร่างลูกชายคนโตไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่ภูมิลำเนาเดิม วัดศรีเจริญผล ต.หนองหมื่นถ่าน อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด

จากนั้นนางสมพิศ พร้อมญาติส่วนหนึ่ง และคณะทำงานพรรคก้าวไกล (กก.) สาขา จ.นครราชสีมา ได้เดินทางไปที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามคดีกับ พ.ต.อ.ฆนรพ รัตนใหม่ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ โดยให้ข้อมูลเบื้องต้นอ้างว่าเกรงจะมีผลกระทบต่อรูปคดี จึงไม่สามารถให้รายละเอียด โดยให้ประสานกับ พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา แต่เมื่อโทรศัพท์ไปสอบถามได้แจ้งให้ประสานกับโฆษกสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมาแทน ทำให้แม่พร้อมญาติ รวมทั้งคณะทำงาน กก. ไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับรูปคดีแต่อย่างใด

นางสมพิศ กล่าวว่า ช่วงสงกรานต์ก็ไม่มีวี่แวว บอยไม่เคยปัญหาชีวิตเป็นเหตุให้ต้องฆ่าตัวตาย เขาอยู่กับแม่กับน้องก็เป็นคนร่างเริงตลอด ซึ่งต้องรอผลพิสูจน์อีกจากตำรวจ อยากให้เขาเดินต่อให้สุด และตรวจดีเอ็นเอด้วย เพื่อจะได้ไม่คาใจสงสัยประเด็นรอยเลือดและบาดแผล โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่ไม่มีภาพน้องเลย เนื่องจากกล้องหันไปคนละมุม

ต่อมาที่ศาลาข้างที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา นางสมพิศ พร้อมญาติ ได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 1 รูป มาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตกลับบ้านเกิด อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ตามความเชื่อของชาวอีสาน โดยมี นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และคณะทำงานทั้งส่วนกลาง และสาขา จ.นครราชสีมา ได้ร่วมพิธีและตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพื่อคลายข้อสงสัยการเสียชีวิตของนายอนันต์ อีกด้วย

นพ.วาโย กล่าวว่า ผลนิติเวชออกมาเบื้องต้นระบุสาเหตุการตายจากขาดอากาศหายใจ เนื่องจากแขวนคอ ทางนิติเวชมี 2 ส่วน คือสาเหตุการเสียชีวิตจากพฤติการณ์ถูกฆ่าและฆ่าตัวเอง ทางการแพทย์ไม่มีอะไร 100 % ต้องรอผลรายงานตัวฉบับเต็ม มีหลายครั้งสาเหตุการตายต้องเปลี่ยน ซึ่งเคยเกิดขึ้น เคสของบอยมีประเด็นสำคัญสามารถเก็บเลือดได้หลายหลอด โรงพยาบาลได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ตามกระบวนการปกติ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งไปที่นิติเวช รพ.ตำรวจ และต้องสืบสวนสอบสวนไปสุดทาง เพราะฉะนั้นก็ต้องสงสัยเบื้องต้น การบอกชัดเจน มีทั้งผลผ่าศพชันสูตรและผลตรวจเลือดไปตรวจ แนวทางมีผู้กระทำให้ตายเหลือไม่เยอะ แต่ทางวิชาการก็ยังเหลือ เช่นผลเลือดระบุมียาสลบหรือยานอนหลับอยู่ในเลือดปริมาณสูง บ่งชี้เขาหลับอยู่ก็ไม่สามารถฆ่าตัวเองได้ ผลต้องรอประมาณ 2 สัปดาห์

แม่ไม่เชื่อ! ‘บอย อนันต์’ ฆ่าตัวตายเอง วอนตำรวจทำคดีตรงไปตรงมา

“ส่วนบาดแผลฉีกขาดบริเวณท้ายทอยประมาณ 2 ซม. บาดแผลค่อนข้างตื้นไม่ลึกมา เนื้อเยื่อข้างใต้ กะโหลกศีรษะ เนื้อสมองก็ไม่มีอะไรผิดปกติ กรณีนี้ไม่ใช่สาเหตุทำให้สลบและเสียชีวิต ส่วนแผลถลอกที่สีข้างด้านขวา กระดูกซี่โครงไม่หักบอบช้ำ ช่องปอดช่องท้องก็ปกติไม่มีเลือดตกค้าง ผู้ชายวัยฉกรรจ์หากมีการต่อสู้ก็น่าจะมีร่องรอยบาดแผลมากกว่านี้ หมอให้ความเห็นเป็นแผลเกิดก่อนตายลักษณะเวลาใกล้เคียงกัน ถ้าจะเอาให้แม่นยำต้องรอผลตรวจชิ้นเนื้อซึ่งได้ตัดและนำส่งตรวจแล้ว จากการพูดคุยกับตำรวจและหมอ รวมทั้งพยานหลักฐานแวดล้อมเรื่องเชือกหรือข้อกังวล เขาอาจถูกทำร้ายด้านหลังจนสลบแล้วนำไปแขวนคอหรือเปล่า ประเด็นต้องวินิจฉัย ผลผ่าศพยืนยันบาดแผลไม่ทำให้เสียชีวิตหรือทำให้สลบได้” นพ.วาโย กล่าว

ด้านเพื่อนร่วมกิจกรรมรายหนึ่งของนายอนันต์ กล่าวว่า ตนได้อยู่ร่วมกันกับนายอนันต์ ก่อนพบเป็นศพเสียชีวิตมาหลายวัน ตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์ เนื่องจากได้ทำกิจกรรมร่วมกัน พูดคุยกันสนุกสนาน ก่อนเกิดเหตุยังมีการจัดงานเลี้ยงรื่นเริงกัน ร้องเพลงคาราโอเกะร่วมกัน ไม่มีประเด็นหรือสัญญาณบอกเหตุเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้า นำไปสู่การฆ่าตัวตาย

ขณะที่ นายศุภชัย เสียงจันทร์ เจ้าหน้าที่พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนมีความสนิทสนมกันรู้ข้อมูลส่วนตัวบางเรื่องเท่านั้น ล่าสุดได้รับทราบข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุร้าย นายอนันต์ ได้พิมพ์ข้อความติดต่อไปยังเจ้าของหอพักในกรุงเทพฯ บอกว่า จะขออยู่เดือนนี้เป็นเดือนสุดท้าย จะไม่อาศัยอยู่ห้องแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังได้กล่าวกับเพื่อนสนิท และคนรอบข้างอยู่เสมอคือคำว่า “ไม่กลัวที่จะต้องไป”