เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีเหตุสลดเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อหลานชายที่เมายาบ้าอย่างหนักจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ลงมือทำร้ายายวัย 80 ปี จนเสียชีวิต ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ทองสุข โปร่งทะเล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เข้าตรวจสอบเหตุทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสที่บ้านพักแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 4 ต.ดอนอะราง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พบหน่วยกู้ชีพดอนอะราง กำลังให้การปั๊มหัวใจ นางคำตั๋น บุตรตะคาม อายุ 80 ปี ที่นอนหายใจรวยรินอยู่ชายคาบ้าน ตามร่างกายพบบาดแผลถูกทำร้าย โดยเฉพาะบริเวณศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลท่วมใบหน้า ทางเจ้าหน้าที่พยายามยื้อชีวิตก่อนเร่งนำตัวส่ง รพ. แต่สุดท้ายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายปิยะณัฐ บุตรตะคาม หรือ “พัตเตอร์” อายุ 22 ปี หลานชายของผู้ตาย เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ในสภาพสะบักสะบอม เจ้าตัวยังมีอาการเมายาบ้า ไม่สามารถให้การใดๆ ได้ ต้องใส่กางเกงให้ ก่อนพาไปสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบสวน นายจันทร์ บุตรตะคาม อายุ 79 ปี สามีผู้ตายและเป็นปู่ของผู้ก่อเหตุให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังนั่งกินข้าวเย็นกับภรรยา ระหว่างนั้นหลานชายเดินเข้ามาแบบเปลือยกายล่อนจ้อน ภรรยาจึงไล่ให้ไปสวมเสื้อผ้าก่อนมานั่งกินข้าวด้วยกัน ระหว่างนั้นตนอิ่มแล้วจึงออกไปนั่งนอกวงข้าว ปรากฏว่าหลานชายเดินถือกางเกงเข้ามาอีกโดยยังไม่สวมใส่แล้วก็สะบัดกางเกงทิ้งต่อหน้าภรรยา ทำให้ภรรยาต่อว่าหลานอีกรอบ จังหวะนั้นหลานชายเกิดอาการคลุ้มคลั่ง จิกผมภรรยาตนก่อนลากไปโขกกับพื้นถนนหลายครั้ง ตนพยายามเข้าไปห้ามบอกว่า อย่าทำ มันบาปกรรม ฝ่ายหลานชายจึงหันมาทำร้ายตนแทน ด้วยความตกใจตนจึงรีบวิ่งหนีเข้าบ้าน
ฝ่ายหลานชายตามมาไม่ทัน หันกลับไปเล่นงานผู้เป็นย่าอีกครั้ง ด้วยการลากร่างกลับเข้ามาที่บ้าน ก่อนจะกระทืบใบหน้าและร่างกายซ้ำไปมาแบบไม่ยั้ง แถมยังจบบีบคอจนสลบคามือ ระหว่างนั้น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านผ่านมาเห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็สู้แรงหลานชายที่มีรูปร่างท้วมสูงใหญ่กว่าไม่ไหว สุดท้ายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านต้องวิ่งหนีตายเข้าบ้านตัวเอง ก่อนรีบแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือดังกล่าว ทั้งนี้ ตนขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับหลานชายคนนี้อย่างเด็ดขาด ไม่ขอให้ความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้นแล้ว ที่ผ่านมาหลานเสพยาบ้าจนติดหนัก เคยไปบำยัดรักษาที่ รพ.แล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล หันหลับมาเสพจนคลุ้มคลั่งอีก.
