เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ กรณี น.ส.ภัคจิรัตน์ ค้ำมา อายุ 42 ปี บ้านวังแท่น ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะที่ 3 มีแม่ป่วยติดเตียง พ่ออายุมากหูหนวก หลงๆ ลืมๆ โดยทั้ง 3 ชีวิต ต้องอยู่อาศัยแบบรัดทด ไม่มีไฟฟ้าใช่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว ข้างฝาเป็นขัดแตะไม้ไผ่ หลังคามุงสังกะสี ฝนตกลงมาสาดเปียกปอนทั้งบ้าน พบ น.ส.ภัคจิรัตน์ สภาพร่างกายซีดเหลือง เปิดเผยว่า ที่บ้านมีอยู่ด้วยกัน 3 คน มีคุณแม่ อายุ 75 ปี ป่วยติดเตียง พ่ออายุ 81 ปี ไม่สามารถทำงานได้เพราะหูหนวก

น.ส.ภัคจิรัตน์ เผยอีกว่า โดยหลังแม่ล้มป่วยติดเตียงมา 2 ปี ตนต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว โดยการรับจ้างนวดแผนโบราณ และขายหนังสือเก่าตาม แต่ระยะหลังค่อนข้างลำบาดเพราะป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก เข้าระยะที่ 3 เริ่มป่วยหนักทำงานไม่ได้ รายได้ไม่มีดูแลพ่อแม่แม้แต่ตัวเอง แต่มาตอนนี้ไปไม่ไหวจะขายออนไลน์ก็ขายได้บางไม่ได้บางไม่มีเน็ตก็ขายไม่ได้ อีกอย่างบ้านอยู่ไกลชุมชนออกไปส่งสินค้าก็ยาก ยิ่งช่วงนี้ป่วยหนักขับรถก็ไม่ได้แล้ว และไม่รู้ว่าจะอยู่กับพ่อและแม่อีกนานเท่าไร คิดว่าก่อนที่จะหมดบุญอยากให้บ้านมีไฟฟ้าใช้ เพราะทำให้พ่อและแม่ มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สะดวกสบายขึ้น

น.ส.ภัคจิรัตน์ เผยว่า ปัจจุบัน บ้านที่อาศัยอยู่ไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่โชคดีมีคุณแม่ข้างบ้านใจดีให้พ่วงไฟมาใช้ แต่ก็เกรงใจเขาไม่กล้าใช้มาก ตอนยังมีรายได้จึงลงทุนติดแผ่นโซลาร์เซลล์แผ่นเล็กๆ ใช้ส่วนหนึ่ง แต่ปัจจุบันเสียไม่มีเงินซ่อม จึงอยากจะมีไฟฟ้าใช้เป็นของตนเองไม่รู้จะทำอะไร อยากจะไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่รู้หน้าตาเป็นยังไง เคยไปรอหน้าศาลากลาง แต่ก็ไม่รู้ใครคือ ผู้ว่าฯ เลยไม่ได้พบ เคยไปเข้าพบศูนย์ดำรงธรรม แต่ก็ได้คำตอบว่าจะประสานให้จากนั้นก็ไม่รู้เลยว่ายังไงต่อ ทุกวันมีแต่ความลำบาก ทำงานก็ไม่ได้แล้ว ที่อยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะมีเพื่อนบ้าน แม่ข้างบ้าน เพื่อนๆ ที่ทราบข่าวมาช่วยบ้าง เอาข้าวสารมาให้บางทีหยิบยื่นปัจจัยให้ พอประทังชีวิตไปวันๆ

น.ส.ภัคจิรัตน์ กล่าวย้ำอีกว่า วันนี้อยากได้มากก็คืออยากมีไฟฟ้าใช้ก่อนสิ้นบุญ เพราะชีวิตจะลำบาก บางวันทั้งบ้านต้องกินข้าวกับซีอิ๊ว วันไหนเพื่อนๆ มาช่วยก็ดี แต่ก็เกรงใจ ซึ่งเรื่องอยู่เรื่องกิน ตนแม้จะป่วยขนาดไหน ก็ไม่อยากให้ทางบ้านต้องอดออกไปเก็บผักเก็บพริกข้างบ้านมาทำกินได้ตลอดจะไม่ให้ทั้งพ่อและแม่หิว แต่ที่อยากได้ที่สุดคืออยากมีไฟฟ้าใช้ในบ้านก็พอ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาทางช่วยเหลือก่อนที่จะหมดบุญเพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงว่าพ่อแม่จะต้องอยู่แบบมืดๆ ต่อไป