ระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแนวแคมปิ้งที่กำลังมาแรง ก่อเกิดธุรกิจทั้งจัดทำที่พักแบบแคมปิ้ง สัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดและในกลุ่มนี้มักจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งตามกฎหมายแล้วการไปเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และพื้นที่เขตอนุรักษ์ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ ขณะที่การไปตั้งแคมป์ในพื้นที่ของเอกชนไม่มีกฏระเบียบห้ามไว้

เพื่อสร้างค่านิยมที่ดีต่อการท่องเที่ยวแบบแคมปิ้ง สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก จัดกิจกรรมจิตอาส า“ไปแคมป์ ทำโป่ง” ชวนนักท่องเที่ยวร่วมกันช่วยดูแลระบบนิเวศป่าในอุทยานฯ เพื่อสนับสนุนและแบ่งเบาการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการดูแลทรัพยากรของชาติ ต้นแบบสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน  

นายนครินทร์ สุทัตโต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง กล่าวว่า เนื่องจากคณะรัฐมนตรี กำหนดให้ป่าทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ รวม 14 ป่า ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า รวมถึงมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น ถ้ำ น้ำตก ทุ่งหญ้าโล่งใหญ่ ทำให้กรมป่าไม้สำรวจเขตป่าทุ่งแสลงหลวงขึ้นมา เพื่อกำหนดให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ และได้เสนอต่อคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ให้มีมติเห็นชอบกำหนดให้ป่าทุ่งแสลงหลวง เนื้อที่ประมาณ 801,000 ไร่ เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 3 ของประเทศไทย

 “การงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในเขตอุทยานฯ มีการคุมเข้มกว่า 10 ปี เนื่องจากเคยมีเหตุที่นักท่องเที่ยววัยรุ่นดื่มจนเกิดการทะเลาะวิวาท จนมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต ทางกรมฯ จึงออกมาตรการ” นายนครินทร์ กล่าว

นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) กล่าวว่า สคล.ได้ทำ รายการ L-No More (แอลกอฮอล์พอกันที) มีเป้าหมายนำเสนอเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ ส่งต่อแง่มุมการใช้ชีวิตให้คนอาชีพต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีให้เป็นวิถีแห่งการใช้ชีวิตปัจจุบัน ขณะที่จุดเริ่มต้นที่เข้าไปร่วมกับอุทยานทุ่งแสลงหลวง เพราะหลังจากถ่ายทำรายการได้ทราบความลำบากในการทำภารกิจของเจ้าหน้าที่ จึงผลักดันให้เกิดกิจกรรม “แอลกอฮอล์พอกันที” ชวนสายแคมป์ไปทำโป่งขึ้นมา โดยคาดหวังว่าจะใช้กิจกรรมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและแบ่งเบาการดูแลอุทยานฯ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : L-NO MORE

นางสาวหทัยรัตน์ ทองมาก ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า การเข้าร่วมกิจกรรมไปแคมป์ทำโป่ง ของอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง กับรายการ L-No More ของ สสส. และเครือข่ายงดเหล้า ได้ศึกษาว่าจะต้องปฏิบัติตามระเบียบในอุทยานฯ อย่างเคร่งครัด เพราะนอกจากจะอยู่ในจิตสำนึกแล้ว จะต้องไม่รบกวนเพื่อนนักท่องเที่ยว การไม่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่ม และไม่สูบบุหรี่ เป็นการสร้างบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม หากเราช่วยกันทำตามกฎกติกา จะช่วยลดภาระเจ้าหน้าที่ และฝากถึงนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาว่า “เราจะไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า และเราจะไม่เก็บอะไรออกไปนอกจากภาพถ่าย”

นายดิษฐพล นางชนิดา และเด็กชายวีรชาติ วสิกรัตน์ ครอบครัวผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ จากจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ดีมาก เป็นกิจกรรมที่ประทับใจ เพราะได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ ได้มีโอกาสมาทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำ เพราะกิจกรรมแบบนี้ไม่ใช่เราเข้ามาขอทำได้เลย แต่การทำกิจกรรมกลุ่มแบบนี้ทำให้ประชาชน เยาวชน ได้มีโอกาสรับรู้ มีส่วนร่วมเพื่อทำประโยชน์ให้ส่วนรวม ทำให้ได้ทราบถึงขั้นตอนวิธีการทำโป่ง มีประโยชน์ต่อสัตว์ป่าอย่างไร สำหรับการร่วม

เมื่อนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎของอุทยานอย่างเคร่งครัดลดภาระเจ้าหน้าที่ซึ่งมีงานหนักอยู่แล้วที่ต้องดูแลพื้นที่ป่าอุทยานนับล้านไร่