โทนี ซิลวา และ แอชลีย์ วูดี สองนักสังคมวิทยาตีพิมพ์ผลงานการวิจัยเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติของคนอเมริกันชื่อว่า ‘Supernatural Sociology: Americans’ Beliefs by Race/Ethnicity, Gender, and Education’ ออกมาราวต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ทั้งสองวิเคราะห์ข้อมูลระหว่างปี 2563-2564 จากการสำรวจโดยทีมงานของมหาวิทยาลัยแชปแมน ในหัวข้อเกี่ยวกับความหวาดกลัวของคนอเมริกันจากผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 1,035 คน โดยมีหัวข้อเรื่องความกลัวที่หลากหลาย เช่น ‘กลัวตัวต่อ’, ‘กลัวแผ่นดินไหว’, ‘กลัวโดนบริษัทติดตามเก็บข้อมูลส่วนตัว’, ‘กลัวเจ้าหน้าที่ทางการที่ทุจริต’, ‘กลัวผู้ก่อการร้าย’

แต่ ซิลวา และ วูดี เน้นไปที่ข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อและความกลัวเรื่องเหนือธรรมชาติ รวมถึงปรากฏการณ์ลึกลับที่หาคำอธิบายไม่ได้ และเมื่อนำมาประกอบกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม เช่น อายุ เชื้อชาติ การศึกษา ศาสนา ก็ได้ผลออกมาว่า เพศ การศึกษาและเชื้อชาติมีความเกี่ยวข้องอย่างมากในระบบความเชื่อที่ซับซ้อน ซึ่งรวมถึงความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติต่าง ๆ 

ผลการสำรวจของม.แชปแมนแสดงให้เห็นว่า เมื่อนำกลุ่มคนเชื้อชาติอื่น เช่น กลุ่มคนเชื้อสายละติน กลุ่มคนผิวขาว กลุ่มคนผิวดำ มาเปรียบเทียบแล้ว ปรากว่ากลุ่มคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียมีแนวโน้มที่กลัวผีและผีดิบ (ซอมบี้) มากที่สุด

นักวิจัยทั้งสองเชื่อว่า เป็นเพราะธรรมเนียมปฏิบัติและวัฒนธรรมประจำเชื้อชาติมีส่วนอย่างมาก พวกเขายกตัวอย่างกลุ่มคนเชื้อสายแอฟริกัน ซึ่งมีประวัติศาสตร์ผูกพันกับเรื่องผี วิญญาณ เรื่องคนตายที่จะกลับมาหาคนเป็นสอดแทรกอยู่ในเรื่องเล่าพื้นบ้านส่วนใหญ่ ซึ่งส่งผลต่อระบบความเชื่อของคนกลุ่มนี้ในยุคปัจจุบัน

สำหรับกลุ่มคนที่มีเชื้อสายเอเชียก็เช่นเดียวกัน ความเชื่อเรื่องคนตายที่จะกลับมาเยี่ยมญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นฝังรากลึกในรูปของพิธีกรรมวันสำคัญ เช่น วันตรุษจีน วันเช็งเม้ง ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนานในกลุ่มคนเชื้อสายจีน แม้แต่ในวันปกติธรรมดา ก็ยังมีธรรมเนียมการทำความเคารพหรือบูชาคนที่ตายไปแล้วหรือบรรพบุรุษของครอบครัว เช่นที่ปรากฏในครอบครัวเชื้อสายเวียดนามที่นับถือศาสนาพุทธ เหล่านี้ทำให้ความกลัวเรื่องผีสางของคนเอเชียฝังอยู่ในใจ

แต่ประเด็นเรื่องความกลัวนั้นต่างจากประเด็นเรื่องความเชื่อ น่าสนใจว่า แม้ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียจะมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะกลัวและเชื่อเรื่องผีและซอมบี้ คนกลุ่มนี้กลับมีแนวโน้มที่จะเชื่อเกี่ยวกับปรากฏการณ์ประเภท ‘วิญญาณหลอน’ หรือบรรยากาศชวนขนหัวลุก ต่ำกว่ากลุ่มคนเชื้อสายแอฟริกัน หนำซ้ำยังมีแนวโน้มที่จะเชื่อเรื่องสัตว์ประหลาด ‘บิ๊กฟุต’ หรือเมืองที่สาบสูญในตำนานอย่าง ‘แอตแลนติส’ ว่ามีความเป็นไปได้จริงมากกว่าอีกด้วย

แหล่งข้อมูล : nextshark.com

เครดิตภาพ : Getty Images