หากพูดถึง “ขี้นก” นั้นย่อมเป็นปัญหากวนใจคนใช้รถไม่ใช่น้อย เพราะขี้นก มีฤทธิ์เป็นกรด หากโดนผิวสีรถแล้ว ควรที่จะรีบล้างออกด้วยน้ำสะอาด และใช้ผ้านุ่มๆ หรือทิซชูมาซับออกทันที หรือถ้าล้างออกทันทีไม่ได้ ก็ไม่ควรที่จะปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป เพราะไม่เช่นนั้นคราบขี้นกจะเกิดการฝังแน่น และจะไปทำร้ายผิวสีรถของคุณแน่นอน

นอกจาก ปัญหาขี้นกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัญหากวนใจคนรักรถเช่นกัน นั่นคือ “รอยขนแมว” ที่เป็นรอยขีดข่วนเล็กๆ ซึ่งมาจากคุณสมบัติของผ้าหรืออุปกรณ์ล้างและเช็ดรถ ที่อาจจะยังมีคราบฝุ่นติดอยู่และมาสัมผัสกับสีรถ โดยเฉพาะรถสีดำ จะเห็นรอยเหล่านี้ชัดเจนที่สุด

เทคนิกแก้ปัญหา “รอยขี้นก”
-หาก “ขี้นก” ไม่ฝังแน่นจนเกินไป ให้ลองใช้แว็กซ์เคลือบสีรถ ที่มีส่วนผสมของผงขัดอ่อนๆ และใช้ฟองน้ำอย่างละเอียดสำหรับ เคลือบสีรถ โดยเฉพาะ จากนั้นก็ค่อยๆ วนน้ำยาเป็นรูปก้นหอย จนกว่าขี้นกจะหายไป
-ถ้ายังหลงเหลือคราบ ให้ใช้ดินน้ำมันสำหรับรถโดยเฉพาะ ถูเฉพาะบริเวณที่มีคราบ ขี้นก และใช้น้ำยาขัดสีรถชนิดขัดละเอียด ค่อยๆถูเป็นรูปก้นหอยเหมือนวิธีแรก จนกว่าคราบขี้นกจะหายไป ซึ่งในขั้นตอนนี้ให้ใช้ฉีดสเปรย์น้ำลงไปบนฟองน้ำที่จะใช้ขัดก่อน เพื่อป้องกันการเกิดรอยขนแมว
-หากทิ้งไว้นานจนเป็น “คราบขี้นกฝังลึก” ให้ลองใช้น้ำยาลบคราบยางมะตอย หรือน้ำยาลบพวกคราบแมลง ฉีดไปที่รอบคราบ จากนั้นใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ ค่อยๆเช็ดรอบคราบขี้นกออก ห้ามออกแรงในการถูเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถของคุณเป็นรอยได้

เทคนิกแก้ปัญหา “รอยขนแมว”
-ล้างรถสม่ำเสมอ
หากไม่มีเวลา หลังจากตากฝนมาสดๆ ร้อนๆ ให้ใช้น้ำสะอาดล้าง ฉีดน้ำแรงๆ เพื่อล้างคราบสกปรก ดินโคลนและฝุ่นออกไป และใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง
-ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดรถหลังตากฝน
ขับรถตากฝนมา มีทั้งคราบสกปรก ดินโคลน และฝุ่น หากใช้ผ้าเช็ดสีรถมีแต่จะทำให้เกิดรอยขนแมวตามมาอีกเพียบ ทางที่ดีฉีดน้ำล้างก่อนดีที่สุด
-ขับรถตากฝนมาแล้ว ไม่ควรจอดตากแดด เพราะการจอดตากแดดจะยิ่งทำให้คราบต่างๆ เป็นด่างเป็นดวง เกิดเป็นคราบฝังตัวแน่นและทำลายชั้นสีได้
-การเคลือบสีรถ สามารถทำได้ตามสะดวก ไม่ว่าจะเป็น การแว็กซ์ เคลือบแก้ว หรือเคลือบเซรามิก เพราะนอกจากจะทำให้สีรถเงางาม ยังช่วยป้องกันคราบน้ำฝน น้ำไม่เกาะที่ผิวรถ จึงช่วยลดคราบฝังแน่นบนสีรถได้ และทำให้ล้างทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วยครับ…

…………………………………..
คอลัมน์ : รู้ก่อนเหยียบ
โดย “ช่างเอก”
ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงที่ [email protected]