ต้องขอแสดงความอาลัยต่อครอบครัวผู้สูญเสียทุก ๆ ท่าน ในเหตุ โศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาสตร์เมืองไทย ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ สังกัด อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู

เหตุร้ายมาเกิดขึ้นช่วงเที่ยง ๆ ของวันที่ 6 ต.ค. 2565 ทำให้ เด็กนักเรียนตัวเล็ก ๆ ไร้เดียงสา วัยเพียง 3-4 ขวบ มากถึง 22 คน ต้องมาถูกพลัดพรากไปจากอ้อมอกพ่อแม่แบบไม่คาดฝัน นอกจากนี้ยังมี ผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องตกเป็นเหยื่อไปด้วย ยอดผู้สูญเสียรวมทั้งสิ้น 36 ราย ส่วนคนร้ายเป็นอดีตตำรวจ ยศ “ส...” ปลิดชีพตัวเอง เป็น ศพที่ 37

โศกนาฏกรรมสลดใจ เพิ่งจะผ่านพ้นมาได้ 6 วัน ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ยังคงทำใจไม่ได้!! ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เป็นเพียงตำบลเล็ก ๆ สงบสุขไม่เคยเกิดเรื่องเลวร้าย หลายคนอาจจะเพิ่งเคยได้ยินชื่อก็ครั้งนี้ นอกจากจะถูกตีแผ่เป็นข่าวสะเทือนขวัญสลดหดหู่ไปทั่วโลก ผู้นำหลายประเทศต่างร่วมแสดงความอาลัยต่อการสูญเสีย

แม้แนวทางการสอบสวนคดี ตำรวจยังไม่ฟันธงชัด ๆ อะไรเป็นมูลเหตุแรงจูงใจของการก่อเหตุแบบสติแตก ลงมือกับเด็กตัวเล็ก ๆ แล้ว ยังขับรถทั้งไล่ชนผู้คนที่พบเห็นตามท้องถนน จ่อยิงซ้ำแบบบ้าคลั่งผิดมนุษย์ แต่มูลเหตุที่นำมาสันนิษฐานไว้ ไม่ว่าจะปมถูกไล่ออกจากตำรวจ เพราะถูกตรวจจับยาบ้า และก็กำลังขึ้นศาลในคดีนี้

สื่อหลายสำนักทั่วโลกจึงต่างให้ความสนใจทั้ง เรื่องยาเสพติด และปัญหาความรุนแรงจาก อาวุธปืน ถึงแม้ว่าการก่อเหตุกราดยิงในประเทศไทยไม่ได้มีขึ้นบ่อย แต่ก็พบว่าอัตราการถือครอง ปืนพกสั้น ในไทย มีสถิติสูงอันดับต้นๆของอาเซียน

ถ้าย้อนกลับไป 2 ปีก่อน หลายคนยังไม่ทันจะลืมเลือนเหตุช็อกของสังคมไทยใน จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 63 “จ่าทหารคลั่ง” ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บังคับบัญชาและเครือญาติ ปมพิพาทซื้อขายบ้าน วางแผนบุกไปสังหารทหารยามเฝ้าคลังอาวุธ ในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ชิงอาวุธสงครามร้ายแรงนานาชนิด ขับรถฮัมวี่บุกมาก่อเหตุบ้าคลั่งยิงคู่กรณียังสติแตก บุกเข้าไปใน ห้างเทอร์มินอล 21 กลางเมืองโคราช ตำรวจระดมปิดล้อมถึงรุ่งเช้าวันที่ 9 ก.พ.63 ก่อนจะถูกวิสามัญ มีผู้เสียชีวิตรวม 30 ราย บาดเจ็บมากถึง 50 ราย

บทเรียนจ่าคลั่งโคราชยังไม่ทันจะจางหายไป ก็มาเกิดโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู มีชาวบ้านยืนยัน อดีตตำรวจ เคยพูดในวงเหล้าเมื่อเดือนที่แล้ว ให้รอดูจะทำแบบกราดยิงที่โคราชแต่จะตายมากกว่า ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นจริง ชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อ พิษร้ายยาเสพติด ที่เคยเสพมานานควบคุมสติตัวเองไม่ได้ จนจิตหลอนถึงไล่ฆ่าคนแบบบ้าคลั่งไร้ความปรานี

ระยะหลัง ๆ 2-3 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านถึงกับพูด ยาบ้ามันกลับมาแล้ว! นับเป็นอีก 1 ในปัญหาสังคม ที่ได้สะท้อนให้เห็นถึงฝีมือการบริหารประเทศของ ผู้นำรัฐประหารที่ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่มีอำนาจล้นมือ กำกับดูแลโดยตรงทั้ง กระทรวงกลาโหม และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่รู้กำลังนำพารัฐนาวาไปทิศทางไหน จากไทยแลนด์แดนศิวิไลซ์ กำลังจะกลายเป็นสังคมที่อุดมไปด้วยสารพัดยาเสพติดทั่วทุกหัวระแหง

ยิงปะทะเดือดกลางดอยแหลม!รวบ2มดงาน ขบวนการลอบขนยาบ้า2.5แสนเม็ด | เดลินิวส์

อย่าปฏิเสธความจริง ปัจจุบัน “ยาบ้า” จากเคยราคาหลักร้อย เหลือแค่เม็ดละ หลักสิบ ถ้าชื่นชอบแนวไหน “ดูดปุ๊น” ยุคนี้ก็แสนง่ายดาย รัฐบาลประยุทธ์ ปลดล็อกกัญชา ออกจากยาเสพติดให้เรียบร้อย ในอาเซียนคงมีประเทศไทยแห่งเดียว เด็กนักเรียนชายหญิง ดูดปุ๊น อัดคลิปว่อนโซเชียล หรืออยากจะดื่มน้ำกระท่อมก็มี “ใบกระท่อม” วางขายตามท้องถนน

บริหารมา 8 ปี นายกฯ เพิ่งจะมาตื่นตัวสั่งการให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดปราบปรามผู้กระทำความผิด ยาเสพติด-อาวุธปืน อย่างเร่งด่วนแบบครบวงจรต่อเนื่อง หนำซ้ำขนาด ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ยังต้องจัดทำโครงการ ตำรวจสีขาว สุ่มตรวจปัสสาวะตำรวจทุกนาย ติดตาม ตรวจสอบ และควบคุมความประพฤติ ไม่ให้ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยเด็ดขาด

ไม่ใช่เรื่องแปลกทั้งคนเมายา และสารพัดปัญหาอาชญากรรม ถึงได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นในสังคมไทย!!

————————–
เชิงผา