“วันที่ 2 ส.ค. นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานพิธีเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน (Soft Opening) แบบไม่เก็บค่าโดยสาร (ฟรี) ประมาณ 3 เดือน (ส.ค.-ต.ค.64) ก่อนเปิดบริการอย่างเป็นทางการแบบเก็บค่าโดยสารในเดือน พ.ย.64”  นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ  รมว.คมนาคม บอกข่าวดีที่จะได้ใช้รถไฟฟ้าสายใหม่

รมว.คมนาคม บอกด้วยว่า ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมทุกด้านแล้ว โดยเฉพาะเรื่องสถานที่ เนื่องจากพื้นที่บางส่วนของสถานีกลางบางซื่อใช้เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน ดังนั้นในการให้บริการทั้ง 2 ส่วนจะต้องทำให้ประชาชนทุกคนได้รับความสะดวก และปลอดภัย

เบื้องต้นกระทรวงคมนาคม ได้ออกแบบพื้นที่ใช้งานสำหรับการให้บริการที่สถานีกลางบางซื่อไว้แล้ว แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 1.พื้นที่โซนด้านซ้ายทางทิศใต้ของสถานีฯ จะใช้สำหรับให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง จะให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการผ่านทางประตูที่ 1 และ 2.พื้นที่โซนตรงกลางและด้านขวาทางทิศเหนือของสถานีฯ จะใช้สำหรับให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยกั้นพื้นที่แยกส่วนกันอย่างชัดเจน ไม่ให้ประชาชนทั้งสองส่วนมาปะปนกันเด็ดขาด เพื่อความสะดวก และความปลอดภัยของทุกคน

ส่วนความพร้อมของขบวนรถไฟฟ้าที่จะให้บริการนั้น ขณะนี้ได้ทดสอบเดินรถทั้ง 2 เส้นทางอย่างต่อเนื่อง รวมถึงฝึกซ้อมเพื่อรับมือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ ซึ่งทุกการทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบปัญหาใดๆ เบื้องต้นในการเปิดให้บริการได้กำหนดปล่อยความถี่ของขบวนรถในชั่วโมงเร่งด่วน (พีค) อยู่ที่ 15 นาทีต่อขบวน ส่วนนอกชั่วโมงเร่งด่วน (ออฟพีค) 

หากมีประชาชนใช้บริการน้อย อาจต้องใช้ความถี่ในการปล่อยขบวนรถให้ช้าลง จะพิจารณาเมื่อเปิดบริการจริงอีกครั้ง รวมถึงช่วงพีคด้วย หากประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก อาจเพิ่มความถี่ในการปล่อยขบวนรถให้เร็วขึ้น โดยที่ผ่านมาเคยทดสอบปล่อยขบวนรถด้วยความถี่สูงสุด 6 นาทีต่อขบวนมาแล้ว สามารถเดินรถได้ดีไม่มีปัญหา       

ด้าน นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุขัดข้องกรณีต่างๆ และการจัดการเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในระบบรถไฟฟ้าสายสีแดง ได้แก่ กรณีแขนรับไฟ  (Pantograph) ของขบวนรถไฟฟ้าเสีย, กรณีขบวนรถไฟดีเซลรางไทยขอพ่วงหลุด, กรณีระบบห้ามล้อและระบบปรับอากาศของขบวนรถไฟฟ้าเสีย, กรณีขบวนรถไฟฟ้าเกิดเหตุเพลิงไหม้, กรณีขบวนรถไฟฟ้าไม่ได้รับไฟฟ้าทั้งระบบ, การฝึกซ้อมกรณีขู่วางระเบิด และการตรวจพบวัตถุต้องสงสัย ณ สถานีบางซื่อ 

การทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เชื่อมั่นว่าจะสามารถอำนวยความสะดวก และสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการในช่วงทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ยืนยัน 

อย่างไรก็ตาม วันที่ 14 ก.ค.นี้  รมว.ศักดิ์สยาม จะเป็นประธานประชุมติดตามความพร้อมในการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง และสถานีกลางบางซื่ออีกครั้ง ก่อนเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการ เพื่อติดตามทุกด้าน อาทิ การเตรียมความพร้อมด้านการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทั้งระบบ รวมทั้งการเชื่อมต่อการให้บริการระบบขนส่ง, ราคาค่าโดยสารและบัตรโดยสาร และการกำหนดจุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารและสินค้า (Gateway/Hub) เป็นต้น

โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง มีระยะทางรวม 41 กม. 13 สถานี แบ่งเป็น ช่วงบางซื่อ-รังสิต 26 กม. 10 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ, สถานีจตุจักร, สถานีวัดเสมียนนารี, สถานีบางเขน, สถานีทุ่งสองห้อง, สถานีหลักสี่, สถานีการเคหะ, สถานีดอนเมือง, สถานีหลักหก และสถานีรังสิต ระยะเวลาเดินทางประมาณ 25 นาที 

และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน 15 กม. มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีบางซ่อน สถานีบางบำหรุ และสถานีตลิ่งชัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที จะช่วยเชื่อมต่อการเดินทางทั้ง 2 ช่วงได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งอำนวยความสะดวกประชาชนบริเวณชานเมืองเดินทางเข้าใจกลางกรุงเทพฯ ได้ภายใน 30-45 นาที

ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม สั่ง รฟท.ทบทวนค่าโดยสารตลอดสายเหลือ 12-42 บาท จากที่เสนอมา 14-42 บาท โดยช่วงบางซื่อ-รังสิต-12-38 บาท และบางซื่อ-ตลิ่งชัน 12-27 บาท สามารถนั่งจากรังสิตและเปลี่ยนขบวนที่สถานีกลางบางซื่อไปสถานีตลิ่งชันโดยไม่ต้องออกจากระบบ 

สิ้นสุดการรอคอยโครงการที่มีมาอย่างยาวนานถึง 31 ปี หากนับตั้งแต่เป็นโครงการโฮปเวลล์ที่เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2533

————————————–
คอลัมน์ มุมคนเมือง
โดย ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่ง…