ถูกต้องแล้ว ที่แม้เป็นวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) แต่นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ก็ยังเรียกนายตำรวจใหญ่ เช่น พล...ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล...ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เข้าพบ เพื่อหารือ “เรื่องที่เป็นห่วงและกำชับมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญเพื่อไม่ให้ประเด็นนี้กลายเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้โจมตีทางการเมืองของทุกฝ่ายหรือมือที่สามที่จะฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลและของผมในฐานะนายกรัฐมนตรี ขอย้ำว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รัฐบาลมีหน้าที่ถวายการอารักขาและรักษาไว้ซึ่งพระเกียรติยศของสถาบัน เชื่อว่าคนไทยเห็นตรงกันในเรื่องนี้”

ที่นายกฯต้องเรียกพบด่วน เพราะ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ตะวัน หรือ ..ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ เยาวชนกลุ่มทะลุวังที่เคลื่อนไหวเรียกร้องยกเลิก ม.112 และทำโพลเรื่องขบวนเสด็จฯ มีข่าวขับรถ “บีบแตรใส่” ขบวนเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี บริเวณทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยฯ สร้างความตกใจและไม่พอใจให้ประชาชนเป็นอย่างมาก และสุ่มเสี่ยงจะลุกลามเป็นประเด็นใหญ่ทางการเมือง

ไล่ไทม์ไลน์แล้ว จะเห็นบรรยากาศ “มาคุ” กำลังเกิดขึ้น 11 ก.พ. ตะวันกับเพื่อนไปทำกิจกรรมที่สกายวอล์ก สยาม มีกลุ่มคนเสื้อน้ำเงินหรือกลุ่ม ศปปส. (ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน) ปะทะเดือดกับกลุ่มตะวัน ตะวันถูกชกหน้า ต่างแจ้งความอีกฝ่ายมีอาวุธและเริ่มก่อน ต่อมาในเว็บ ศปปส.โพสต์ข้อความ “รอบหน้าไม่มีปราณี เจอตะวันอีก จะจับโยนจากสกายวอล์ค” หรือ “เตรียมดับตะวัน” เรียกเสียงชื่นชมและเห็นด้วยล้นหลาม แม้เป็นเหมือน “ศาลเตี้ย”

12 ก.พ. ที่ โรงเรียนนายร้อย จปร. เดิมจะจัดกิจกรรมตบเท้า “ถวายกำลังใจ ทูลกระหม่อมอาจารย์” แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นพิธีถวายพระพรชัย แสดงความจงรักภักดี เนื่องในวันพระราชสมภพ 2 เม.ย. 67 มีนายทหาร นักเรียนนายร้อย และมวลชนกว่า 1,800 คน ร่วมกิจกรรม 13 ก.พ.วิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูป (ผู้แจ้งความคดี ม.112 ทักษิณ ชินวัตร) โพสต์เรียกร้องศิษย์เก่าจุฬาฯ ตบเท้าแสดงความจงรักภักดี 15 ก.พ.ที่จุฬาฯ

คาดว่า จะมีสถานศึกษา หน่วยราชการ และมวลชน ตบเท้าแสดงความจงรักภักดีอีกมาก ล่าสุด ก็ สว.

นายเศรษฐาจึงมาถูกทางแล้วที่ตอกย้ำ เป็นหน้าที่รัฐบาลและในฐานะนายกฯ ต้องถวายการอารักขาและรักษาไว้ซึ่งพระเกียรติยศของสถาบัน ไม่ให้ใครเอาไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง หรือฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์

หันมาดูที่ตะวันกับ การกระทำที่อุกอาจ ไม่รู้อะไรควรไม่ควรทำ สติหลุด บ้าระห่ำ อย่าว่าแต่เป็นขบวนเสด็จฯ เลย ต่อให้เป็นคนทั่วไป เจอพวกหัวร้อน ได้ฆ่ากันตาย แม้ตะวันจะอ้างภายหลัง ไม่ได้บีบแตรไล่เพราะไม่รู้เป็นขบวนเสด็จฯ แต่ยอมรับและขอโทษที่ขับรถเร็ว ก็ไม่รู้คนฟังจะยอมรับได้มั้ย ตะวัน มีคดี ม.112 ติดตัว ได้ปล่อยตัวชั่วคราว หลังประท้วงอดอาหารรุนแรง ขณะที่ตำรวจแจ้งข้อหาตะวันกับเพื่อน ม.116 คุกคามสถาบัน และคงได้กลับเข้าคุกอีกรอบ หากประท้วงอดอาหาร ครั้งนี้อาจตายฟรี เหมือนที่บุ้ง ผู้ปกครองหยก อดอาหารมายาวนาน แต่ไม่มีใครสนใจ

เป็นบทเรียนใหญ่ สำหรับกลุ่มเคลื่อนไหว หากล้ำเส้นสีแดง การสนับสนุนจะไม่มี เหนืออื่นใด จะแปรเป็นสารตั้งต้นให้กลุ่มอนุรักษ์ออก “ใบอนุญาตฆ่า” ดังที่เคยเกิดใน เหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 19 และพฤษภา 53 ที่เสื้อแดงถูกฆ่า 99 ศพ แม้ในวัดปทุมฯ เขตอภัยทาน ก็ไม่เว้น อย่าคิดว่า ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย การกระทำของตะวัน จะถูกโยงว่า มีผู้ชักใยเบื้องหลัง ผบ.ตร.เอง ก็สรุปเช่นนั้น แค่ไม่ระบุ เป็นใคร แต่เชื่อเหอะ ที่สุด ผู้ยุยงจะไม่ใช่ “ไอ้โม่ง” ที่ไหน ไปลงที่ พรรคก้าวไกล ปิศาจตัวใหม่ ที่ถูกสร้างขึ้นแล้ว

จึงเป็นหน้าที่ทั้งของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ ชัยธวัช ตุลาธน ต้องกล้าแถลงการณ์ “ประณามการกระทำ” ที่ไม่ถูกต้อง ไม่สมควร อย่างแข็งแรง ขอย้ำ อย่างแข็งแรง ใครกระทำเช่นนั้นต้องถูกประณาม อย่ากลัวจะถูกด่าว่าเอาตัวรอด หรือเสียคะแนนเสียง เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเอาตัวรอด แต่เป็นการแยกถูกแยกผิดให้ชัดเจน แม้เกือบสายเกินไป

เพื่อป้องกันการเข่นฆ่าที่จะตามมา ดังที่ ตู่จตุพร พรหมพันธุ์ เตือน นี่คือการเดินไปสู่ “ขวาพิฆาตซ้าย” อีกรอบ หากไม่ช่วยกันดับไฟแต่ต้นลม.