ก่อนที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดปัจจุบัน 250 คน ที่มาจากการแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะขยันขันแข็งในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนครบวาระในวันที่ 10 พ.ค.67 ด้วยการขอเปิดอภิปรายการทำงานของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ที่อยู่มากว่า 6 เดือน แบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 153 ในวันที่ 25 มี.ค. 67

พยัคฆ์น้อย” จึงขอป้อนข้อมูลที่น่าสนใจให้ สว.ทราบดังนี้ 1.ผู้นำรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร แทบไม่ได้ออกไปต่างประเทศเลย หรือถ้าไปก็น้อยมากๆ เทียบไม่ได้กับรัฐบาลพลเรือน เนื่องจากไม่ได้รับเทียบเชิญ 2.ผลของการรัฐประหาร และต้องการเอาใจ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสหภาพยุโรป ทำให้พี่น้องชาวประมง 22 จังหวัดติดทะเล พังพาบ!กันมา 8 ปี

3. ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา “จีดีพี” ประเทศไทยขยายตัวเฉลี่ยไม่ถึงปีละ 2% รั้งท้ายในอาเซียน ทำให้มีประชาชนแห่มาขึ้นทะเบียนคนจนมากกว่า 10 ล้านคน ขึ้นทะเบียนแล้วยังต้องไปยืนยันตัวตนถึงความยากจนกับเจ้าหน้าที่รัฐด้วย

4.ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา หนี้สาธารณะโตพรวด 9-10 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนพุ่งกระฉูดไปถึง 16.2 ล้านล้านบาท (ไตรมาส 3/66) นายแบงก์นั่งกินกำไรสุทธิกันพุงปลิ้น จากปัญหา “ดอกเบี้ยนโยบาย” ของแบงก์ชาติปรับขึ้น 8 ครั้ง มายืนอยู่ที่ 2.5% มีผลทำให้ช่วงห่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝาก และดอกเบี้ยเงินกู้ต่างกันกว่า 4-5% ธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีภาระหนี้ รวมทั้งคนกำลังผ่อนบ้าน-รถยนต์ จึงเลือดโชก! ส่วนใครที่ต้องการกู้ซื้อบ้าน-คอนโดฯ ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท กู้ผ่านยาก!

5.องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (TI) จัดอันดับปัญหาทุจริตคอร์รัปชันให้ประเทศไทยที่บริหารโดยรัฐบาลทหารรัฐราชการ อยู่ในอันดับเกิน 100 มาหลายปี (จาก 180 ประเทศ) ถือว่าสูงกว่ารัฐบาลพลเรือน ก่อนมีการรัฐประหารในปี 57 อยู่หลายอันดับ

เมื่อสว. ทราบข้อมูลเหล่านี้แล้ว ก็เชิญอภิปรายการทำงานของรัฐบาลนายเศรษฐาตามใจปรารถนาใน 7 ด้าน คือ 1.ปัญหาด้านเศรษฐกิจของชาติและปัญหาปากท้องของประชาชน 2.ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย 3.ปัญหาด้านพลังงาน

4.ปัญหาด้านการศึกษาและสังคม 5.ปัญหาด้านการต่างประเทศและท่องเที่ยว 6.ปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 7.ปัญหาการปฏิรูปประเทศ และการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ

ขอเชิญ! สว.อภิปรายกันให้เต็มที่ 15 ชั่วโมง เพื่อเป็นการสั่งลา! รัฐบาลชุดปัจจุบัน ก่อนที่พวกท่านจะครบวาระการเป็นสว. ในวันที่ 10 .. 67

นอกจาก สว.แล้ว ยังมีพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ สส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ร่วมกันยื่นญัตติขอเปิดการอภิปรายทั่วไปรัฐบาล แบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร

นายชัยธวัชระบุว่า เนื้อหาของญัตติดังกล่าว เพราะคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายเศรษฐาบริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว แต่มิได้ดำเนินการหรือปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ ไม่ตั้งใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายของตนที่ได้ให้ไว้ต่อรัฐสภา ขาดประสิทธิภาพหรือความชัดเจนแน่นอน ยังไม่ได้มีการขับเคลื่อนนโยบายหรือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ฯลฯ

แต่ “พยัคฆ์น้อย” เสียว! แทนนายชัยธวัช หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ในการเสนอแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 แล้วใช้เป็นนโยบายหาเสียง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เนื่องจากนายชัยธวัชเคยเป็นเลขาฯพรรค ในยุคที่นายพิธาเป็นหัวหน้าพรรค ดังนั้นจึงมีลุ้น! มีเสียว! ว่าจะถูกยุบพรรคและถูกตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคด้วยหรือไม่?

เพราะงานนี้ถ้าไม่รอด! นั่นหมายความว่านายชัยธวัชและนายพิธา อาจจะได้อภิปรายสั่งลา! รัฐบาลเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกับ สว.ที่กำลังจะหมดอายุ ต้องกลับไปนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านแบบยาว ๆ!!.

…………………………………….
พยัคฆ์น้อย

อ่านบทความทั้งหมดที่นี่…