ควันหลงจาก รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ไปเมื่อช่วงค่ำวันที่ 3 เม.ย.67 อภิปรายบางช่วงบางตอนแบบดุเดือด โดยเฉพาะประเด็น เปรียบเปรยไทยกำลังเป็น ประตูของปากนรก “อภิมหาขบวนการสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์““
ยิ่งภายหลังที่ เมืองเล่าก์ก่าย (เมืองเอกของเขตปกครองพิเศษโกก้าง รัฐฉาน ตอนเหนือเมียนมา มีชายแดนติดกับจีน) เคยถูกระบุให้เป็น เมืองหลวงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ช่วงปลายปี 2566 กองกำลังชาติพันธุ์ ร่วมมือกับ กลุ่มติดอาวุธประชาชน (People’s Defense Force) หรือ PDF ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา บุกโจมตียึดเมืองเล่าก์ก่าย ได้สำเร็จ ทำให้ เครือข่ายอาชญากรไซเบอร์ข้ามชาติ บางส่วนกระจัดกระจายลงไปสมทบกันใน เมืองเมียวดี (ฝั่งตรงข้ามอ.แม่สอด จ.ตาก) นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวม กาสิโนขนาดใหญ่ หลายแห่ง สารพัด ธุรกิจมืด แอบแฝง โดยมี กลุ่มทุนสีเทา อยู่เบื้องหลัง
ใครจะไปเชื่อ หลังจาก รังสิมันต์ โรม อภิปรายถึงเมืองเมียวดี ผ่านพ้นไปไม่กี่วัน กระทั่งวันที่ 9 เม.ย. ก่อนเทศกาลสงกรานต์ กองกำลัง กลุ่มชาติพันธุ์ทหารกะเหรี่ยง ร่วมกับ กลุ่ม PDF ดีเดย์จู่โจมบุกถล่ม ค่ายผาซอง ฐานที่มั่นใหญ่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง อีกทั้งยังเป็นที่ตั้ง กองพันทหารราบที่ 275, กองพันปืนใหญ่ 310 และกองพลทหารราบเบาที่ 44 ห่างสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ประมาณ 2 กม. (ตรงข้ามบ้านริมเมย ต.บ้านท่าสายลวด อ.แม่สอด)
กองกำลังผสมใช้เวลาไม่กี่วัน โจมตีค่ายผาซอง ยึดเมืองเมียวดี ได้แบบเบ็ดเสร็จ มีทหารเมียนมาบางส่วนถอยร่นลงไปรวมตัว ตามตะเข็บชายแดนริมแม่น้ำเมย ฝั่งตรงข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ตลอดช่วงสงกรานต์จึงมีสื่อทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมาก ตามไปเกาะติดทำข่าวแบบใกล้ชิด
หลายฝ่ายมองว่า รัฐบาลทหารเมียนมาของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงใหญ่ นับตั้งแต่ รัฐประหาร 1 ก.พ. 2564 ทำให้สื่อทั่วโลกต่างจับตามองสถานการณ์ เมื่อฝ่ายต่อต้านจู่โจมแบบเหนือความคาดหมายจนยึดเมียวดี นับเป็น เมืองยุทธศาสตร์สำคัญ แนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ของอาเซียน เชื่อมโยงขนส่งทั้งสินค้านานาชนิด อาหาร และน้ำมัน ระหว่างเมียนมา-ไทย
ช่วงสุญญากาศ เมื่อฝ่ายต่อต้านฯคุมพื้นที่เมียวดี แล้วใครจะเป็น “ผู้ดูแลรับผิดชอบ” ระบบขนส่งผ่านแดนรวมไปถึง การคุมกิจการสำคัญต่างๆอีกมากมาย โดยเฉพาะ “กลุ่มทุนสีเทา” ที่เข้าไปปักหลักทำธุรกิจ มีผลประโยชน์มหาศาล
หากย้อนถอยหลังกลับไปดูก่อนเมียวดีจะถูกยึดได้นั้น วันที่ 27 ต.ค. 66 รัฐบาลทหารเมียนมา โดนลูบคมบุกยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์ไล่ตั้งแต่ ปฏิบัติการ1027 (Operation 1027) เมืองเล่าก์ก่าย รัฐฉาน จากนั้นเหมือนเป็นโดมิโน่ กระตุ้นให้กองกำลังติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาพื้นที่อื่น ๆ เปิดแนวรบโจมตี จากภาคเหนือ ไปตะวันตก และตะวันออก ไม่เว้น กรุงเนปิดอว์ เมืองหลวง กลางประเทศ ยังถูกลองเชิงจาก ’ฝูงโดรนกามิกาเซ่“ บรรทุกระเบิด บินโจมตีเป้าหมายสำคัญ
กลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา มีทั้งนักศึกษา หนุ่มสาว คนทำงานหลากหลายอาชีพ ไม่เว้นแม้ข้าราชการบางส่วน ตัดสินใจเข้าป่าจับอาวุธปืนสู้ ตั้งแต่รัฐประหาร ปี 64 เวลาผ่านไป 3 ปี เมื่อฝ่ายต่อต้านฯ ตอนนี้ผนึกกำลังจับมือ “กลุ่มนักรบชาติพันธุ์” การต่อสู้จึงเข้มข้นดุเดือด ยึดเมืองยุทธศาสตร์เพิ่มขึ้น จาก “ศึกเมียวดี”จะกลายเป็นโดมิโน่ ไปเมืองไหนต่อ ? ที่สำคัญรัฐบาลทหารเมียนมา จะพลิกหมากเกมสงครามนี้ด้วยยุทธวิธีใด เป็นเรื่องน่าติดตามไม่น้อย!!.
……………………
เชิงผา
