“อินเดีย ที่คนไทยหลาย ๆ คนอาจยังมองว่ามีประชากรยากจนอยู่มาก…แต่นับวันดูจะยิ่งเป็นอีกหนึ่ง“ประเทศใหญ่ที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย” มากขึ้นเรื่อย ๆ… ทั้งนี้ ที่ว่ามีผลต่อเศรษฐกิจไทย ก็อย่างเช่นผ่านทางการเป็น “นักท่องเที่ยวต่างชาติกระเป๋าหนัก” ซึ่งกับการใช้เครื่องบินเหมาลำยกกันมาเที่ยวไทยพร้อมจัดพิธีวิวาห์ในไทยก็มีบ่อย ๆ ไป และ… “ทำไมเศรษฐกิจอินเดียเติบโตสูง?…อะไรทำให้อินเดียมีเศรษฐีเงินล้านรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น?…นี่เป็น“ปุจฉา ที่นักวิชาการอาวุโสด้านรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ชวนคนไทยร่วมหาคำตอบผ่านมาทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์”

         เมื่อเร็ว ๆ นี้มีนิตยสารเศรษฐกิจระดับโลกชี้ว่า… ขณะนี้ “ประเทศที่น่าจับตาด้านเศรษฐกิจมากที่สุด อีกประเทศหนึ่งคือ “อินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก คือมากกว่า 1,400 ล้านคน ซึ่งแม้ถูกจัดให้เป็นประเทศที่ต้องต่อสู้กับความยากจน แต่ก็สวนทางกับความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจในขณะนี้ ที่พบว่าอินเดียมีการเติบโตเศรษฐกิจพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตลาดหุ้นอินเดียโตอันดับ 4 ของโลก
และ “มีเศรษฐีรุ่นใหม่เกิดขึ้นมากมาย“

         กับ “ปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจน่าสนใจ” กรณี  “อินเดียมีเศรษฐีเงินล้านรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น” เรื่องนี้ก็เป็นข้อมูลที่นิตยสารเศรษฐกิจของต่างประเทศระบุไว้ หลังจากเศรษฐกิจของอินเดียได้ถูกจับตามองเป็นพิเศษ และถูกจัดให้มีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับ “ดาวรุ่งดวงใหม่” โดยมีรายงานที่วิเคราะห์ไว้ว่า…การที่เศรษฐกิจอินเดียเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก “นโยบายของรัฐบาล” ที่ประกาศใช้ ยุทธศาสตร์ “Invest India” และ “Make in India” รวมถึงการที่รัฐบาลอินเดีย สนับสนุน “ธุรกิจ Tech Startup” อย่างจริงจัง ที่ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ “อินเดียมีเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้น

         นอกจากนี้ยังมีการให้ข้อมูลไว้อีกว่า… ธนาคารสวิตเซอร์แลนด์รายงานว่าเมื่อปี ค.ศ. 2022 มีคนอินเดียที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 36 ล้านบาท มากกว่า 850,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อ 10 ปีก่อนเกือบเท่าตัว คือเดิมมีอยู่ราว 473,000 คน โดยตัวเลขนี้ก็ฉายภาพ “อัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น ของ “เศรษฐีเงินล้านชาวอินเดียและถ้าเศรษฐกิจอินเดียยังเติบโตร้อนแรงไม่หยุดแบบนี้…ก็จะยิ่งมีเศรษฐีใหม่ ๆ เกิดเพิ่มขึ้น ที่อาจมีตัวเลขแตะไปถึงหลัก 1 ล้านคน

         ทั้งนี้ กับ “ปรากฏการณ์เศรษฐีใหม่ นี้ ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้ขอให้รศ.ดร.สมชาย ช่วยวิเคราะห์เพื่อ “ถอดรหัสอินเดีย-ถอดรหัสไทย” โดยทางนักวิชาการรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ท่านนี้ได้สะท้อนมาว่า… สำหรับ“สาเหตุ-ปัจจัย” ที่ทำให้ “คนอินเดียรุ่นใหม่รวยขึ้น” นั้น ส่วนหนึ่ง เป็นผลมาจากอัตราขยายตัวเศรษฐกิจอินเดียเติบโตรวดเร็วในช่วงเวลาไม่กี่ปี ซึ่งจากปี 2023 ถึงปี 2024 นี้ เศรษฐกิจอินเดียก็มีการขยายตัวสูงถึง 6-7% ซึ่งสูงมาก แถมในอนาคตยังมีแนวโน้มจะขยายตัวไปไกลได้ถึง 10% อีกด้วย และแน่นอนว่า…เมื่อเศรษฐกิจขยายตัว คนในประเทศก็เติบโตตามไปด้วย…

ขึ้นกับศักยภาพและความสามารถ…

         ที่แน่ ๆ เศรษฐกิจประชาชนอินเดียเติบโต ซึ่งนักวิชาการท่านเดิมชี้ว่า… กลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วของอินเดียมากที่สุดนั้น ได้แก่ กลุ่มคนชั้นกลาง กับ กลุ่มคนที่รวยอยู่แล้ว โดยกลุ่มคนชั้นกลางก็มีโอกาสที่จะ “พลิกชีวิตเป็นเศรษฐีใหม่ ขณะที่คนที่รวยอยู่แล้วก็ยกระดับกลายเป็น “มหาเศรษฐีหรือ “อภิมหาเศรษฐีได้

         ส่วนอีกปัจจัยที่เป็นส่วนเสริมสำคัญทำให้ “อินเดียมีเศรษฐีใหม่มาก” รศ.ดร.สมชาย มองว่า… เป็นผลจากนโยบายรัฐบาลที่มีความชัดเจน ด้วย…ว่าอยากมุ่งไปทางไหน เช่น ต้องการขยายการค้าการลงทุน ทำให้อินเดียตอนนี้เนื้อหอมมาก ๆ มีทั้งนักลงทุนและตลาดทุนจากอเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่จีน มุ่งเป้าลงทุนที่อินเดีย ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าคิด เพราะแม้บางประเทศที่กล่าวมานั้นจะมีกรณีพิพาท หรือมีเรื่องกระทบกระทั่งกันมาก่อนหน้ากับอินเดีย แต่ก็กลับเลือกตัดสินใจที่จะเข้าลงทุนที่นี่

         อีกปัจจัยสำคัญทำให้อินเดียมีเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้น ก็คือ… คุณภาพบุคลากรและความสามารถด้านเทคโนโลยี โดยต้องยอมรับว่า อินเดียร่ำรวยขึ้นมาเพราะเทคโนโลยี ยิ่งดูที่ “กลุ่มเศรษฐีรุ่นใหม่ ก็ยิ่งฉายภาพชัด เพราะ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจและอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี อีกทั้งการขยายตัวและเติบโตของตลาด Tech Startup นั้นยังมีผลช่วยดึงดูดใจนักลงทุนให้อยากเข้าลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียมากขึ้นอีกด้วย …ต่าง ๆ เหล่านี้คือปัจจัยเอื้อ“อินเดียมีเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้น

         ทั้งนี้ มาถึง “ปุจฉาสำคัญคือ “มุมเปรียบเทียบ” อินเดีย-ไทย ที่ว่า… “ไทยจะมีโอกาสแบบอินเดียบ้างมั้ย?? ซึ่งทาง รศ.ดร.สมชาย สะท้อนประเด็นนี้กับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” โดยบอกว่า… “ยากมาก!!! จากอุปสรรคต่าง ๆ ที่ไทยยังเผชิญอยู่ และยังไม่ได้รับการแก้ไข ได้แก่… ระบบการศึกษาที่ย่ำแย่ ทำให้มีแต่คนจบปริญญา แต่ยังไม่มีคุณภาพเท่าต่างประเทศ จน การพัฒนานวัตกรรมกับเทคโนโลยียังทำได้ไม่ดี และ…  ปัญหาทักษะภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อช่องทางการหาความรู้ รวมถึง… การลงทุนภาครัฐที่มีจำกัด ที่มีอยู่ประมาณ 20% เท่านั้น ทั้งที่ปกติควรจะอยู่ที่ 35-36%

          ถ้าต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเหมือนอินเดีย รัฐบาลต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุดกว่านี้ กับต้องมีนโยบายที่ชัดเจนจริงจังมากกว่านี้ ซึ่งถ้าทำได้ไทยก็คงมีโอกาสเหมือนอินเดียได้เช่นกัน …เป็นการวิเคราะห์ของ รศ.ดร.สมชาย

นี่สะท้อนภาพ…“ปรากฏการณ์เศรษฐี“
ฉายภาพ…“คนอินเดียเป็นเศรษฐีเพิ่ม“
ย้ำภาพ…“คนไทยยากจะเป็นเศรษฐี!!“.