ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องจับเข่าคุยกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้รู้เรื่องเสียทีว่าอะไรกันเนี่ย! ตอนเปิดประมูลก่อสร้างรถไฟรางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และสายบ้านไผ่-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็ถูกสังคมคลางแคลงใจ จนนายกฯ ต้องตั้งคณะกรรมการกลางมาตรวจสอบความโปร่งใสในผลของการประมูลงาน 5 สัญญา 5 ผู้รับเหมา คว้ากันไปคนละสัญญา

แต่โครงการที่ยัง “ยักแย่ยักยัน” กันมาพักใหญ่ ๆ คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์มีนบุรี) วงเงินลงทุนกว่า 1.28 แสนล้านบาท ยังไม่ไปถึงไหน!

แม้นายศักดิ์สยามจะส่งสัญญาณยืนยันว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สามารถเดินหน้าจัดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มต่อไปได้ แต่ฝ่ายบริหารบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอส) ย้ำ! หัวตะปูว่าหาก รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ ยังคงนำเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกเจ้าปัญหา ที่จะพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิคและข้อเสนอด้านราคาประกอบกันมาใช้ ทางบีทีเอสจะใช้สิทธิโต้แย้ง และอาจฟ้องศาลปกครองอีกครั้ง

แว่ว ๆ ว่างานนี้คณะกรรมการคัดเลือกชุดใหม่ พากันขวัญผวา ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม! เพราะเกรงว่าจะต้องเข้าปิ้ง! หมดอนาคต และอาจถึงขั้นติดคุกแทนฝ่ายการเมืองก็เป็นไปได้!

เนื่องจากหากยึดหลักเกณฑ์ประมูลคัดเลือกตามกฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 28 ม.ค.63 ที่กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินการคัดเลือกเอกชนผู้ชนะการคัดเลือก โดยรัฐต้องได้ผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินดีที่สุด หรือมีการขอรับเงินสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐน้อยที่สุดนั้น รฟม.ต้องกลับไปใช้เกณฑ์คัดเลือกปกติ ซึ่งต้องชี้ขาดกันที่ข้อเสนอทางการเงินที่ให้ประโยชน์ต่อรัฐมากที่สุด ไม่ใช่ไปลากเอาเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกที่มีปัญหากลับมาใช้

คงไม่มีกรรมการคัดเลือกชุดใหม่คนไหน เอาหน้าที่การงานไปเสี่ยงคุก เพราะมีตัวอย่างศาลอาญาคดีทุจริตฯ รับฟ้องกรณี “บีทีเอส” ฟ้องผู้ว่าการ รฟม. และกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 รวม 7 คน คดีร่วมกันแก้ไขเปลี่ยนหลักเกณฑ์ประมูล พ่วงด้วยคดีตามมาตรา 157 โดยศาลนัดพิจารณาหลักฐานทั้งสองฝ่าย ก่อนเดินหน้าไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 25 ต.ค.นี้

โดยมี “หนังตัวอย่าง” อดีตผู้ว่าการ รฟท. ต้องติดคุกเกี่ยวกับเรื่องราวคล้ายคลึงกัน ในโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ เนื่องจากมีการแก้ไขสัญญาในเอกสารประกวดราคาเพื่อเอื้อประโยชน์แก่เอกชน ทำให้ รฟท.ได้รับความเสียหาย

แต่การประมูลคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุน (พีพีพี) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ ณ ปัจจุบัน เนื่องจากทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย รวมทั้งพยานหลักฐานต่าง ๆ ล้วนมีความหมิ่นเหม่! ทำให้กรรมการคัดเลือกส่วนใหญ่เห็นว่าควรรอให้มีความชัดเจนใน “คดีความ” เสียก่อน!

หรือถ้าจะให้สบายตัวที่สุด หากต้องการให้รถไฟฟ้าสายสีส้มเดินหน้าต่อไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ควรมีคำสั่งให้กระทรวงคมนาคมและ รฟม. กลับไปใช้เกณฑ์พิจารณาคัดเลือกปกตินั่นแหละ เพราะหากศาลปกครองและศาลอาญาคดีทุจริตฯ ชี้มูลตามมา โดย รฟม.จัดประมูลไปตามเกณฑ์ปกติแล้ว ก็สามารถเดินหน้าโครงการต่อไปได้

อย่าลืมว่ามติ ครม. เมื่อ 28 ม.ค.63 อนุมัติให้ รฟม. ดำเนินการประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ระยะทาง 35.9 กม. วงเงินลงทุนกว่า 1.28 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบันโครงการดังกล่าวถือว่าล้มเหลว ล่าช้า!

เนื่องจากมีการฟ้องร้องเรื่องเปลี่ยนเกณฑ์การประมูล จนต้องล้มประมูลหนี! สร้างความเสียหายแก่รัฐ ทำให้ประชาชนสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจมากมาย แต่ยังหา “ไอ้โม่ง” ที่คอยกำกับบทอยู่เบื้องหลังมารับผิดชอบไม่ได้เลย!!.

———————-
พยัคฆ์น้อย