วันนี้ (30 ก.ย. 67) เวลา 07.30-12.30 น. ที่บริเวณพื้นที่เขาขยาย ต.เขาท่าพระ อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมปลูกต้นไม้เขาขยาย ทำความดีแทนคุณแผ่นดิน โดยมี นายสุธน ศรีหิรัญ นายธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ นายประสพโชค อยู่สำราญ รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท นายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายวิทยา ชพานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท หัวหน้าส่วนราชการ ชมรมคนรักเขาขยาย คณะผู้จัดกิจกรรม 12 เดือนแห่งการปั่น หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคีเครือข่ายเขาขยาย และประชาชนจิตอาสาจำนวนมาก ร่วมกิจกรรม
“กิจกรรมพัฒนาและฟื้นฟูเขาขยาย เป็นแนวคิดที่ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท คนที่ 52 ได้ริเริ่มขึ้นครั้งแรก เมื่อปี 2557 เพราะเล็งเห็นว่า พื้นที่เขาขยายเคยมีความอุดมสมบูรณ์มาก่อน แต่ได้ถูกทำลายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงพื้นดินที่แห้งแล้ง มีสภาพเหมือนทะเลทราย แทบจะไม่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุม มีร่องรอยของการลักลอบขุดดินลูกรังจนกลายเป็นแหล่งน้ำตามธรรมชาติ จึงพิจารณาเห็นว่าพื้นที่เขาขยายสามารถพัฒนาเป็นพอร์ตของคนชัยนาท ที่มีความเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา ภาคีเครือข่าย และประชาชนในพื้นที่ จึงเห็นพ้องต้องการในการพัฒนาและฟื้นฟูเขาขยายให้เป็นเขาสวรรค์ ด้วยการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ และความหลากหลายทางชีวภาพของธรรมชาติให้กลับคืนมา ด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับพื้นที่เขาขยาย ซึ่งจากการดำเนินการ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พื้นที่เขาขยายได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเขาทะเลทรายเป็นเขาสวรรค์ ผลลัพธ์ที่ได้นอกจากจะไปให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของทุกภาคส่วนแล้ว คนคนในสังคมยังได้รับประโยชน์อย่างมากมายทั้งการมีแหล่งท่องเที่ยวที่งดงาม มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกายท่ามกลางธรรมชาติสวยงามตามระบบนิเวศที่สมบูรณ์และอากาศอันบริสุทธิ์ สามารถเป็นตัวอย่างของการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับพื้นที่ อื่น ๆ ในจังหวัดชัยนาทได้” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า “เขาขยาย” เปรียบเสมือนอนุสรณ์สถานแห่งชีวิตของตน ในวันนี้จึงนับเป็นโอกาสดีในฐานะการเป็นข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ครบวาระการเกษียณอายุราชการ ซึ่งตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติราชการตนมีความรักและความผูกพันกับจังหวัดชัยนาทอย่างยิ่ง เพราะเป็นเสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่มีสิ่งที่ทำให้รักและคิดถึงจังหวัดชัยนาทอยู่เสมอตลอดเวลา ด้วยความปรารถนาดีของพี่น้องชาวจังหวัดชัยนาท มีความเมตตาให้ความรัก ความนับถือ และร่วมมือในการ “Change for Good” ทำให้เกิดสิ่งที่ดีในพื้นที่จังหวัดชัยนาท โดยเฉพาะเรื่องการจัดกิจกรรม “12 เดือนแห่งการปั่น” เมื่อขณะที่ตนดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาทคนที่ 52 เราได้ประกาศเจตนารมณ์ว่า ‘จังหวัดชัยนาทต้องเป็นเมืองจักรยาน : Chainat the City of Bike’ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม “ชัยนาทอินเลิฟ” หรือ “รักและคิดถึงชัยนาท” ภายใต้แนวคิดที่จะให้คนไทยต่างถิ่นได้รู้จักและอยากแวะมาเยี่ยมเยียนจังหวัดชัยนาท ซึ่งโครงการและกิจกรรมที่จัดขึ้นได้รับความอนุเคราะห์จากพี่ ๆ น้อง ๆ ภาคีเครือข่าย ทั้งจังหวัดสระบุรี จังหวัดชัยนาท ตลอดจนทุกภาคส่วนที่ช่วยกัน
“ในปีแรกของการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาทคนที่ 52 ได้ริเริ่มกิจกรรม “12 เดือนแห่งการปั่น” ตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 กิจกรรมแรกคือ ปั่น “Show – off” (Bike Show-off in Chai Nat) เดือนกุมภาพันธ์ กิจกรรม “ปั่นคู่รัก” (Love @ first bike in Chai Nat) เดือนมีนาคม กิจกรรม “ปั่นเปิดเมือง” (Chai Nat Open Bike day) เพื่อรณรงค์การลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ช่วยลดโลกร้อนด้วยการขี่จักรยานแทนการใช้รถยนต์ เดือนเมษายน กิจกรรม “ปั่นเพิ่มบุญ” (The blessing bike touring in Chai Nat) เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2558 เป็นการปั่นเที่ยวชมศาสนสถานสำคัญของจังหวัดชัยนาท เดือนพฤษภาคม กิจกรรม “จักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย” (Chai Nat Bike Downhill Championship) ซึ่งควบคู่กันได้จัดกิจกรรมปั่นปลูกป่าคืนธรรมชาติให้เขาขยาย เดือนมิถุนายน กิจกรรม “ปั่น Unseen” (Bike for the unseen in Chai Nat) เดือนกรกฎาคม กิจกรรม “Tour de Chai Nat” (Tour of Chai Nat 2015) เดือนสิงหาคม กิจกรรม “ปั่นชมทุ่งเขียวขจี” (Chai Nat Green way by bike) เป็นการประกาศปฏิญญาว่าทำให้งจังหวัดชัยนาทมีพื้นที่สีเขียวจากต้นไม้เพิ่มมากขึ้น กันยายน กิจกรรม “Car free Day” (Chai Nat Car free Day 2015) เดือนตุลาคม กิจกรรม “ปั่นชมทุ่งรวงทอง” (The biking of blooming life) เดือนพฤศจิกายน กิจกรรม “Full moon Bike” (Bike me to the moon) และเดือนธันวาคม กิจกรรม “ปั่นย้อนรอยเสรีไทย” (Bike back to the memory of free Thai)” จึงเป็นที่มาของ “ชัยนาทเมืองจักรยาน” ที่ต่อมาได้ขยายผลดำเนินโครงการฟื้นฟูเขาขยายภายใต้แนวคิดว่าจะทำอย่างไรให้เขาขยายเป็นเป้าหมายจุดหมายปลายทางให้กับนักท่องเที่ยว” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ในวันนี้ตนสวมเครื่องแบบจิตอาสาพระราชทาน เพื่อแสดงออกในสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงได้พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ ทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุขตลอดไป และพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งประเทศชาติจะมั่นคงได้ ประชาชนต้องช่วยกัน และความมั่นคง คือ ประชาชนมีความสุข ซึ่งจังหวัดชัยนาทมีตำนาน มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และสังคมไทยต้องมีผู้นำ แต่สิ่งที่เหนือกว่าประเทศ นั่นคือ “พระมหากษัตริย์” ที่พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ “แก้ไขในสิ่งผิด” ด้วยการรื้อฟื้นการเป็นจิตอาสา การทำความ ดี ด้วยหัวใจ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ที่ในอดีตคนไทยเรามีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีจิตใจที่ดีงาม ทำให้สังคมปราศจากยาเสพติด การศึกษา ประวัติศาสตร์ ศีลธรรม หน้าที่พลเมืองที่ดีของชาติ
“จึงขอเชิญชวนให้พวกเราแก้ไขในสิ่งผิด เริ่มต้นลงมือทำที่เขาขยาย จากที่อดีตเคยเป็นเทือกเขาที่มีความยาว มีความอุดมสมบูรณ์ แต่เนื่องจากมีดินลูกรังเยอะจึงมีการนำขุดดินลูกรังไปใช้ จนกลายเป็นเขาทะเลทราย เราจึงต้องช่วยกันฟื้นฟูช่วยกันทำในลักษณะจิตอาสา เริ่มดำเนินการตั้งแต่ในเดือนเมษายน 2557 โดยใช้ชื่อ “โครงการฟื้นฟูเขาขยายจากเขาทะเลทรายสู่เขาสวรรค์” โดยน้อมนำแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ รวมทั้งศาสตร์พระราชา ป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง โดยร่วมกับ 7 ภาคีเครือข่าย หลอมรวมพลังบวรจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ตามหลักการทรงงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ตาม 4 กระบวนการ คือร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์ โดยพัฒนาเขาขยายให้เกิดแหล่งเรียนรู้ตามธรรมชาติ ให้คนในพื้นที่และประชาชนทั่วไปได้มาใช้ประโยชน์ เป็นพื้นที่ในการเข้าค่ายลูกเสือ มีกิจกรรมการเดินทางไกล เป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะกลายเป็นศูนย์เรียนรู้แจกจ่ายพันธุ์กล้าไม้ ด้วยการเก็บเมล็ดเพาะพันธุ์ รวมถึงเป็นแหล่งสร้างความมั่นคงด้านอาหารและยา เป็นสถานที่ปั่นจักรยานที่มีสนาม BMX เวียนซ้ายแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นที่มาของคำว่า “ชัยนาทเป็นยิ่งกว่าบ้านเกิดของผม” ซึ่งการจะทำให้เกิดความยั่งยืนเราต้องทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้เข้าปีที่ 10 ของการฟื้นฟูเขาขยาย เราจงต้องมีความอดทน มีความเพียรพยายาม และระลึกนึกถึงเรื่องพระมหาชนก แม้ว่าจะอยู่กลางมหาสมุทรก็ไม่ย่อท้อ เช่นเดียวกับการฟื้นฟูเขาขยายให้เราต้องทำต่อไปแบบไม่ย่อท้อ” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอให้พวกเราช่วยกันนำเรื่องราวดี ๆ ที่ตนและทุกคนได้ร่วมทำกันมา ถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่ สู่สาธารณชน เพื่อบอกเล่าเรื่องราว สร้างความตระหนักให้เห็นความสำคัญตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งในวันนี้ตนรู้สึกมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้นำพวกเราผู้เป็น “จิตอาสา ทหารเสือของพระราชาภาคประชาชน” จากทุกที่ทั่วสารทิศ มาร่วมกันทำให้พื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ตามศาสตร์พระราชา ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ พวกเราเป็นทหารเสือของพระราชาโดยสายโลหิตและจิตใจ โดยไม่จำเป็นต้องมีเครื่องแบบ ด้วยการร่วมด้วยช่วยกันทำให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้นกับจังหวัดชัยนาทและผืนแผ่นดินไทย ภายใต้การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา อารยเกษตร ช่วยกันทำความดีให้กับแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนของเราอย่างยั่งยืนด้วยหัวใจ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
นายอนุสรณ์ นาคาศัย นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ชาวจังหวัดชัยนาทมีความรู้สึกที่ดีที่มีท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คนที่ 41 ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท คนที่ 52 เป็นผู้นำของพวกเราชาวจังหวัดชัยนาท เป็นบุคคลสำคัญของพวกเราตลอดเวลาที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งที่ยังตราตรึงใจในตลอด เพราะท่านคือคนที่ทำให้จังหวัดชัยนาทได้รับคำชื่นชม เป็นจังหวัด อันดับ 1 ของ การจัดกิจกรรมปั่นจักรยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกิจกรรม “Bike for Mom” ที่ทำให้กิจกรรมดังกล่าวได้รับการบันทึกสถิติ “กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด” มีผู้เข้าร่วมจัดกิจกรรมปั่นจักรยาน มากถึง 7,412 คน สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ
นางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของคนในชุมชน โดยเฉพาะทรัพยากรป่าไม้ที่มีผลโดยตรงต่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ เพราะป่าไม้เปรียบเสมือนอ่างเก็บน้ำช่วยดูดซับและกักเก็บน้ำ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุกรรมพืชเป็นแหล่งป้องกันภัยธรรมชาติช่วยลดความรุนแรงจากอุทกภัย ซึ่ง อบจ.ชัยนาท ตระหนักถึงการคุ้มครองดูแลและบำรุงรักษาป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบริเวณเขาขยาย อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ที่มีสภาพแห้งแล้งและจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูรักษา จึงได้จัดกิจกรรม เพื่อให้เขาขยายเป็นเต็มไปด้วยพื้นที่ที่มีต้นไม้นานาชัยนาทนานาชนิด มีความอุดมสมบูรณ์ ทางนิเวศวิทยา ลดภาวะ โลกร้อน เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพทั้งเป็นการทำความดีร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมในวันนี้เป็นการปลูกต้นไม้รวม 809 ต้น จากการมีส่วนร่วมของทุกภาคีเครือข่าย