เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ทำเอาญาติโยมแตกฮือ และมีผู้ “ได้รับบาดเจ็บจากการถูกต่อย” หลายคน หลังเกิดกรณี “ผึ้งหลวงแตกรัง” ไล่ทำร้ายคนกลางงานแห่กฐินที่ จ.นครราชสีมา จนเกิดเป็นคลิปภาพชวนขนลุก!! ซึ่งนี่ก็ตอกย้ำการเป็นสัตว์กลุ่มที่ต้องระวัง และก็ควรศึกษาทำความเข้าใจ “ต่อ–แตน–ผึ้ง” ไว้ด้วย…
“รู้ไว้ใช่ว่า” เป็นความรู้ใช้ “ต้านภัย”
รวมถึงใช้เพื่อ “ช่วยเหลือคนอื่น ๆ”
ทั้งนี้ กับคนที่ระวังภัยสัตว์ต่าง ๆ อยู่แล้ว เมื่อพูดถึง “ต่อ-แตน-ผึ้ง” ก็อาจจะกลัวสัตว์กลุ่มนี้ไม่น้อย เพราะเคยได้ยินอยู่บ่อย ๆ ว่า…บางคนถูกต่อยเป็นอันตรายถึงขั้นต้องส่งโรงพยาบาล หรือบางรายที่ทนพิษไม่ได้ก็ถึงขั้นเสียชีวิต!! ก็ทำให้หลาย ๆ คนติดภาพน่ากลัวเกี่ยวกับสัตว์กลุ่มนี้ อย่างไรก็ดี กลัวอย่างเดียวยังไม่พอจะให้ดีต้อง “ศึกษาทำความเข้าใจ”ด้วย ซึ่ง “ต่อ-แตน-ผึ้ง”แม้ดูคล้าย ๆ กัน แต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ซึ่งวันนี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็มีข้อมูลมาสะท้อนต่อ…
เกี่ยวกับสัตว์บินได้ตัวจิ๋ว ๆ กลุ่มนี้ ใน เว็บไซต์คลังความรู้ https://scimath.org มีข้อมูลอธิบายไว้ว่า… “ต่อ–แตน–ผึ้ง” มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร โดยในกลุ่มนี้…ที่ “ร้ายกาจที่สุด” คือ“ต่อ” ซึ่งตัวต่อมักมีความยาวลำตัวประมาณ 1.5 ซม. ขณะที่ “แตน” นั้นจะมีลำตัวขนาดยาวน้อยกว่า 1.5 ซม. ตัวต่อจึงมีขนาดใหญ่มากกว่าแตน แต่ไม่ว่าจะเป็นต่อหรือแตนก็จะมีลายแถบข้าง ๆ ลำตัว ที่ดูคล้าย ๆ กัน จนบางครั้งอาจจะทำให้รู้สึกสับสนในการจำแนกสัตว์ 2 ชนิดนี้ ส่วน “ผึ้ง” นั้น จะแตกต่างจากต่อและแตนอย่างชัดเจน จะมีลำตัวเล็กกว่า คือประมาณ 0.7-1 ซม. รวมถึงไม่มีลายแถบอยู่ที่ลำตัวเหมือนกับต่อและแตน …นี่เป็นข้อมูลโดยสังเขปเกี่ยวกับลักษณะของสัตว์ทั้ง 3 ชนิดนี้ ที่มี “หลักสังเกต–วิธีจำแนก” เบื้องต้นง่าย ๆ
ส่วน “อาการ” เมื่อถูกสัตว์กลุ่มนี้ต่อย ส่วนใหญ่จะมีอาการเล็กน้อย บริเวณที่ถูกต่อยจะปวด บวม แดง คัน แสบร้อน ซึ่งอาจเป็นนานหลายชั่วโมง แต่ ในรายที่แพ้พิษมาก บริเวณที่ถูกต่อยอาจค่อย ๆ บวมขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 5-10 ซม.ซึ่งอาการนี้มักเกิดขึ้นภายใน 12-36 ชั่วโมงหลังถูกต่อย และเป็นต่อเนื่องหลายวัน
กรณีที่ ถูกต่อยที่ลิ้น หรือในช่องปาก บริเวณที่ถูกต่อยมักจะมีอาการดังต่อไปนี้คือ อาจทำให้ลิ้นและเยื่อเมือกในช่องปากบวม จนอาจอุดกั้นทางเดินหายใจ และอาจจะถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้!! โดยลักษณะนี้มักจะพบในกลุ่มเด็ก, กรณีที่ ถูกต่อยที่กระจกตา (ตาดำ) ถูกต่อยที่ตำแหน่งนี้ก็น่ากลัว อาจทำให้กระจกตามีแผล จนสายตาพิการ ก็เป็นได้
กรณีที่ ถูกต่อยใกล้เส้นประสาท ถูกต่อยที่จุดนี้ อาจเกิดรอยบวมกดทับเส้นประสาท จนมีอาการชา หรือรายที่ พิษซึมเข้ากระแสเลือด เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้มาก หรือมีอาการเป็นพิษต่ออวัยวะทั่วร่างกาย จะมีอาการ ริมฝีปากบวม หนังตาบวมคัน ผิวหนังออกร้อนแดง มีลมพิษขึ้นทั่วตัว รวมถึง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน เจ็บแน่นหน้าอก
ในคนที่ แพ้พิษรุนแรง มักจะแสดงอาการรุนแรงมากกว่าปกติ เช่น หายใจลำบาก หายใจหอบ เพราะกล่องเสียงบวม หรือหดเกร็ง หรือหลอดลมมีการตีบตัว โดยสังเกตได้จากการมีเสียงหายใจวี้ด ๆ หรือบางรายที่เกิดภาวะช็อก ก็จะมีอาการเป็นลม ชีพจรเต้นเบาและเร็ว ความดันเลือดต่ำ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ใน 15-30 นาที ถึง 4 ชั่วโมง!! โดยอาการแพ้รุนแรงอาจเกิดใน 2-3 นาทีหลังถูกต่อย หรืออาจเกิดหลังถูกต่อยไปแล้ว 24 ชั่วโมงก็ได้ ซึ่ง คนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ คนที่เคยมีอาการแพ้พิษ หรือเป็นโรคภูมิแพ้อยู่ ที่อาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้!!
และที่ก็น่ารู้คือ ในบางคนอาจมีปฏิกิริยาแพ้ช้ากว่าปกติ เช่น มีอาการหลังถูกต่อย 1-2 สัปดาห์โดยอาการที่แสดงคือ เป็นไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดข้อ–กล้ามเนื้อ ข้อบวม–เจ็บ ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วตัว หรือบางรายอาจเกิด ไตอักเสบ หลอดเลือดอักเสบ เลือดจางจากเม็ดเลือดแดงแตก เกล็ดเลือดต่ำ และมีอาการ ประสาทตาอักเสบ ได้
สำหรับ “การรักษา” เมื่อถูก “ต่อ–แตน–ผึ้งต่อย” นั้น แพทย์จะ รักษาตามลักษณะความรุนแรงของอาการแต่ถ้ามีอาการแพ้ทั่วตัว หรือแพ้รุนแรง จะฉีดยาอะดรีนาลินและยาแก้แพ้ให้ผู้ถูกต่อย ถ้ามีเสียงหายใจดังวี้ด ๆ ก็จะให้สูดยาขยายหลอดลม (แบบเดียวกับที่ใช้รักษาโรคหืด) หรือ ในรายที่หายใจลำบาก แพทย์อาจพิจารณาใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเจาะคอช่วยหายใจ โดย ถ้าถูกต่อยมาก ๆ จำเป็นต้องรับตัวไว้เฝ้าดูอาการและให้การรักษาในโรงพยาบาลอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพื่อดูภาวะพิษต่าง ๆ เพื่อป้องกันอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อันตราย …นี่เป็นข้อมูลแนวทางการรักษา
ทั้งนี้ กับ “ต่อ–แตน–ผึ้ง” นี่ก็มีข้อมูลโดย มูลนิธิหมอชาวบ้าน ที่แนะ “วิธีดูแลเบื้องต้นเมื่อถูกต่อย” ไว้ว่า…ให้ปฐมพยาบาลดังนี้… มีเหล็กในฝังอยู่ ให้ รีบนำเหล็กในออก โดยใช้สันมีด ขอบบัตรพลาสติก ขูดออก หรือใช้สกอตเทปใสปิดทาบบริเวณที่ถูกต่อยแล้วดึงออก แล้ว ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำกับสบู่ และใช้น้ำแข็งหรือน้ำเย็นประคบบริเวณที่ถูกต่อย 20 นาที เพื่อลดปวดบวม ควรทำซ้ำทุกชั่วโมงจนกว่าจะทุเลา และ กรณีปวดมาก ให้กินยาพาราเซตามอล เพื่อบรรเทา หรือหากคันให้กินยาแก้แพ้ เช่น คลอร์เฟนิรามีน ทุก 6-8 ชั่วโมง และทาครีมสเตียรอยด์ …นี่เป็นวิธีดูแลกรณีไม่รุนแรงมาก
ที่สำคัญ “อย่าประมาท…ต่อ–แตน–ผึ้ง”
เห็นตัวจิ๋ว ๆ บินหึ่ง ๆ “เผ่นได้เผ่น”…
อาจเป็น “ฝูงบินพิฆาต” ได้เลยนะ!!.
ทีมสกู๊ปเดลินิวส์