ก็ไม่รู้ว่า เป็นการยอมรับถึงความรุนแรงและเบี่ยงไปเป็นเรื่องตลกหรือไม่ แต่รายการพวกนี้ถ้าไปขึ้นข้อความทำนอง “เกิดจากการรับรู้และยินยอมพร้อมใจของผู้แสดง” มันก็กลายเป็นลดความรู้สึกน่าดูลงไป ยกเว้นกรณีที่เอาสัตว์มาแกล้ง ถ้าไม่ขึ้นข้อความว่า สัตว์ไม่ได้รับอันตราย เห็นทีจะโดนรุมถล่มรอบด้าน ไม่ใช่แค่พวกเอนจีโอ คนรักสัตว์ก็เยอะแยะ บวกด้วยพวกชอบผสมโรง อย่างกรณีดราม่าละครแม่หยัว ที่ดันไปวางยาแมวจริงๆ จนชาวเน็ตกราดเกรี้ยวด้อยค่าดาราในกองไปด้วย ค่อยเงียบได้เมื่อ “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่”ฟ้องให้หลาบ

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาเล่นแผลงๆ เจ็บตัว มันก็ไม่ควรจะเลยเถิดไปถึงขั้นลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เช่น แอบถ่ายตอนมีเพศสัมพันธ์ เอาเท้าเหยียบหัว บังคับให้กินอะไรแผลงๆ จนอ้วก .. เรื่องลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ถ้าถูกทำให้ชินชาว่าเป็นเรื่องตลกมันอันตรายตรงที่จะสร้าง“สังคมพิการทางจิต”เอาง่ายๆ เพราะอาจกระทำคนไม่มีทางสู้จนมันมือเลยเถิดไป กลายเป็นประทุษร้ายต่อร่างกายและจิตใจคนโดนกระทำ ..ยิ่งในยุคอินเทอร์เนตนี้ ถ้าการกระทำกลายเป็นเรื่องเรียกยอดไลค์ ยอดวิว ยอดเอนเกจ …บางคนก็หิวยอดสมมุติเหล่านี้ พอเห็นยิ่งเล่นแรงยิ่งขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มความแรง

เพิ่งเกิดเหตุเล่นเอาถึงตายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อมีกลุ่มชายแผลงๆ กลั่นแกล้ง“แบงค์เลสเตอร์” ชายผู้บกพร่องทางสติปัญญา ให้กินเหล้าติดๆ กันจนร่างกายดูดซึมแอลกอฮอล์มากเกินไป เป็นเหตุให้เสียชีวิต ซึ่งน่าเชื่อว่า “คนที่ให้ทำก็ไม่น่าจะรู้หรอกว่ากินเหล้าปริมาณมากติดๆ กันมันทำให้ถึงตายได้” ส่วนหนึ่งที่เกิดเรื่องน่าจะเป็นลักษณะบรรยากาศพาไป..อย่างที่ว่า พอทำแล้ว มีคนช่วยกันยุ มันก็บ้าขึ้น แล้วก็กลายเป็นควบคุมผลที่ตามมาไม่ได้ .. จบที่การโทษกันไปโยนกันมา ว่า ใครเป็นคนยุ ใครเป็นคนจ้าง.. แล้วก็จะมีคนออกหน้าขอบทนางห้ามหรือนางช่วย

คราวนี้ชาวเน็ตก็ขุดคลิปต่างๆ ที่คนกลุ่มนี้เคยแกล้งแบงค์เลสเตอร์ออกมาแฉรัวๆ ซึ่งคนอ่านข่าวก็งงชื่อคนในข่าว ใช้ชื่อเล่น มีฉายา แบบว่ามีถามๆ กัน..นี่ใคร ? ดังมาจากไหน ? .. เพราะความเป็น“คนดัง”เดี๋ยวนี้มันไม่ต้องพึ่งสื่อกระแสหลักใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดียของตัวเอง อย่าง tiktok , facebook, youtube สร้างตัวตนได้ ซึ่งก็แล้วแต่ใครสนใจจะตามเนื้อหาแบบที่ตัวเองชอบ ระบบอัลกอริธึ่มมันก็จะช่วยสุ่มเนื้อหาประเภทเดียวกันมาให้ดู หลายคอนเทนท์ก็มีปัญหาเพราะแสดงออกพฤติกรรมไม่ค่อยเหมาะ อย่างพวกคลิปวีดิโอเด็กนักเรียนนัดตบกัน รังแกสัตว์ ต้องโดนเอาทัวร์ไปลงหรือโดนแจ้งความให้หลาบจำ

คนเดี๋ยวนี้อยากดัง อยากมีตัวตนผ่านโซเชี่ยลฯเยอะ เพราะ“ความดังมันทำให้มีอภิสิทธิ์” เป็นที่รู้จักมีแฟนคลับมาซื้อของให้ ยอดฟอลโลเวอร์เยอะๆ ก็รับโฆษณาสินค้าได้ เมื่อทำสื่อได้เอง หลายคน“กระบวนการกลั่นกรอง”ก็ลดลง ( ไม่ต้องว่าแต่คนผลิตสื่อในโซเชี่ยล ฯ สื่อกระแสหลักก็บ้งเยอะ ) จนทัวร์ลงสักทีถึงแก้ไข ..จากกรณีแบค์ เลสเตอร์ หลายคนสงสัยว่า “แบงค์คือใคร ดังอย่างไร ทำไมไม่รู้จัก?” ก็เพราะคุณไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของผู้ผลิตเนื้อหาเขา อัลกอริธึ่มมันเลยไม่ค่อยจัดมาให้เห็น จนเป็นข่าวนั่นแหละ หลายๆ คนได้รู้ว่า “เกิดอะไรขึ้นกับครีเอเตอร์แนวห่ามๆ” ( บางคนเรียกตลาดล่าง)

หลายเรื่องก็ไม่รู้จะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร ความจริงเบื้องหลังมันเป็นอย่างไร เพราะคนตายไม่อาจเจรจาความ ..แต่ความตายเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมีคนรับผิดชอบ ก็มีกระบวนการตามจับกุมคนที่อยู่ในคลิปวีดิโอ ซึ่งชาวเน็ตก็ช่วยหาหลักฐานให้ตำรวจอีกทาง ว่า “ไอ้พวกที่จ้างคนสติปัญญาบกพร่อง ชอบโชว์รวย รวยมาจากไหนนะ ?” บางคนตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้วเพียงแต่รอหลักฐานให้จั๋งหนับก่อน อาจแบบว่า พอเกิดคดีขึ้นมา ได้หลักฐานโชว์รวยจากชาวเน็ตเพิ่ม ก็ได้โอกาสเข้าตรวจสอบทันที ตอนนี้ “บิ๊กอรรถ” พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.( ตำรวจไซเบอร์ ) จัดการแล้ว  

“บิ๊กอรรถ”สั่งทีกลายเป็น“คดีเดียวเอาให้เหี้ยน” การให้ชุดสืบสวน บช.สอท.และสายตรวจไซเบอร์ดำเนินการตรวจสอบ“อินฟลูเอนเซอร์” กลุ่มหนึ่ง ( ซึ่งสังคมเรียกว่าอินฟลูตลาดล่าง ทำคอนเทนท์หยาบๆ โชว์รวย ป่วนเมือง ป่วนคนอื่น ) ที่มีพฤติกรรมโพสต์อะไรแล้วแปะลิงค์ตระกูล “88” ซึ่งเป็นเวบไซด์พนัน โปรโมทให้คนเข้าเวบพนันอีก โดยอาจดูไปถึงคดีอาญา ฟอกเงินเวบพนันออนไลน์ด้วย..เรื่องฟอกเงินนี่เรื่องใหญ่โทษเยอะ และยังสั่งการให้ตรวจสอบกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่มีพฤติกรรมทำคอนเทนท์ที่ส่อเข้าข่ายผิดกฎหมาย

คนหนึ่งที่โดนไปแล้วคือ “เอ็ม เอกชาติ มีพร้อม” ผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ ว่า เกี่ยวพันกับเวบพนันไหนบ้าง ประสานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) ขอข้อมูลเส้นทางการเงินว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับคดีเว็บพนันของนายอั้ม ภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ ในลักษณะใด ( บุคคลนี้เป็นที่รู้จักเพราะพี่สาวเป็นหมออินฟลูฯ ชื่อดัง ) แถม “บิ๊กต่าง”พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.สั่งการให้ขยายผลบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดต่อตัวแบงค์เลสเตอร์ด้วย ซึ่งทาง บช.สอท.อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เรียกว่า กวาดให้เรียบทีเดียวทั้งเครือข่าย

ทั้งนี้ บิ๊กต่ายสั่งให้เอาผิดในคลิปที่มีลักษณะการค้ามนุษย์ด้วย ( ว่ากันว่า มีคลิปที่ส่อถึงการมีเพศสัมพันธ์ )  เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และเอาผิดอีกคนที่เกี่ยวข้องคือ “เบิร์ด วันว่างๆ” หรือนายธีระวัฒน์ ศรีรอง ข้อหาแรกคือผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากนั้นคงมีการแจ้งข้อหาผู้เกี่ยวข้องตามมาอีก ขอให้รอดู พงส.กับศาล

เราเรียนรู้อะไรจากกรณีแบงค์ เลสเตอร์บ้าง ? อันดับแรก คิดว่านี่คือสัญญาณเตือนสังคมให้ตระหนักถึงความรุนแรงที่ปรากฏในสื่อ ที่พวกอินฟลูฯ สร้างขึ้นมา ลักษณะไหนที่เรียกว่า เป็นการกระทำที่เกินขอบเขต ..หลายคนไม่รู้จักอินฟลูฯ กลุ่มนี้ แต่เมื่อได้มาเห็นพฤติกรรมจากข่าว จากคลิปที่ชาวเน็ตเอามาแชร์ๆ กัน ก็ต้องเริ่มคิดกันแล้วว่า “ความรุนแรงมันจะมีผลอะไรหรือไม่ ?” ซึ่งการทำกิจกรรมท้าทาย ( challenge ) หรือกิจกรรมแบบตลาดล่าง พวกอินฟลูฯ เมืองนอกก็มี แต่ถ้าสังคมเห็นเป็นเรื่องขบขัน คิดว่า การ challenge ให้ทำนั้น ถ้าเขายินยอมพร้อมใจก็พอ ก็จะเป็นการสนับสนุนความรุนแรง

เราต้องทำความเข้าใจว่า อะไรคือ“ความรุนแรง” อะไรคือ“ความอันตราย” ความรุนแรงคือการประทุษร้ายต่อร่างกาย ใจ แสดงออกผ่านการใช้กำลังหรือคำพูด มีผลทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อผู้ถูกใช้ความรุนแรง อันนี้เป็นเรื่องต้องห้ามอยู่แล้ว ..ส่วน“ความอันตราย”คือพฤติกรรม หรือสิ่งของที่ถ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวอาจมีผลถึงชีวิต เช่นเดียวกับกรณีแบงค์เลสเตอร์ น่าสงสัยว่า คนต้นเรื่องเข้าใจความอันตรายของการมีแอลกอฮอล์เกินพิกัดร่างกายรับได้หรือไม่ ?  หรือที่ไปให้เขาทำ challenge อื่นๆ ( มีคนเล่าว่าถึงขนาดให้ลองอมขี้หมา แต่ไม่เคยเห็นคลิป ) คือเข้าใจไหมว่า นั่นทำติดเชื้อถึงชีวิตได้ ..ยังมีอีกหลายพฤติกรรมที่มันอันตราย ไปเล่นเองคนเดียวถ่ายคลิปคนเดียว ตายคนเดียวก็เป็นภาระคนอยู่เบื้องหลัง คิดถึงชีวิตตัวเอง ชีวิตคนอื่นด้วยอย่าแค่หวังยอดวิว ยอดแชร์

Challenge แผลงๆ อันตรายถึงชีวิตมันมีมาเรื่อยๆ ตั้งแต่สมัยแพลงกิ้ง ( planking ) ไปนอนคว่ำกันในที่แปลกๆ ยิ่งดูอันตรายยิ่งว้าว มันเป็นพฤติกรรมห่ามๆ ที่อย่างน้อยควรขึ้นคำเตือนว่า “เหมาะสำหรับผู้ฝึกมาแล้ว” หรือ “ห้ามเลียนแบบ” อย่างเพจ“ขาหมูแอนด์เดอะแก๊ง” เพจฮิปโปน่ารักๆ เขายังต้องใส่แฮชแทคเตือนว่า ฮิปโปเป็นสัตว์ดุร้ายเข้าใกล้ได้เฉพาะผู้ดูแล ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าสนใจอิทธิพลของความโด่งดังทางเน็ต เพราะพอคนชอบฮิปโปมากๆ เข้าก็ส่งเสริมความรู้ ..คนไปหาข้อมูลตามแฮชแทค แล้วพบว่า นี่คือสัตว์ที่ไม่ได้อุ้ยอ้ายใจเย็น มันหวงถิ่นและมันเป็นสัตว์ที่ฆ่าคนไปมากที่สุดในแอฟริกา อะไรแปลกปลอมเข้าไปมันพุ่งเข้าสวบได้ทันที ดูฟันฮิปโปก็น่าจะรู้ว่าถึงตาย

ใครเป็นผู้ปกครองก็ต้องยิ่งระวัง challenge แผลงๆ เช่นการขี่รถเร็ว หรือ challenge พวกขยะสังคม เช่น รวมตัวกันแว๊น นัดตบกันในชุดนักเรียน ก็ต้องเตือนบุตรหลานว่าอย่าไปทำตาม

อันดับต่อมา คือ การตระหนักถึงความเป็นคนเท่าเทียมกัน เรื่องนี้รณรงค์มายาวนานไม่รู้จบ เพราะคนมักจะหา “ความแตกต่าง” ของอีกฝ่ายมาใช้กลั่นแกล้งรังแกกันเอาสนุก ตั้งแต่การเหยียดผิว เหยียดคนพิการ เหยียดชาติพันธุ์ เหยียดการศึกษา ..คนทำก็พวกมีปมหวังยกตัวเองให้ดูสูงกว่าเขาด้วยหลายสาเหตุ เรื่องหนึ่งคือชีวิตตัวเองเป็นไอ้ขี้แพ้ทางใดทางหนึ่งจึงระบายกับคนอ่อนแอกว่า…ที่น่าสะเทือนใจคือ คนอ่อนแอยอมตกเป็นเหยื่อ เพราะ“เป็นวิธีหาเงินของเขา” หรือ“เป็นวิธีเข้าสังคมที่เขาพอจะทำได้” การยอม..ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนไม่จบ หมดจากแบงค์เลสเตอร์ไป เราจะมีคนใหม่ที่เข้ามาในวงจรอุบาทว์ ที่ไม่เห็นคนเป็นคนแบบนี้อีกหรือเปล่า ?

เรียนรู้การเอาใจเขาใส่ใจเรา มองคนด้อยกว่าว่าเขาก็มีคุณค่าความเป็นมนุษย์ ยิ่งน่าเศร้าเมื่อรู้ว่า แบงค์เลสเตอร์ก็แค่คนที่อยากหาเงินเพื่อให้ยายได้ใช้ชีวิตดีๆ แต่คนรังแกเขาไม่ทราบว่าเคยคิดถึงด้านละเอียดอ่อนนี้หรือไม่..สังคมต้องไม่เพิกเฉยต่อการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ มันมีเนื้อหาที่ปฏิบัติต่อคนพิการหรือเด็กพิเศษในเชิงบันเทิง ที่ออกมาเป็นความบันเทิงไม่มีพิษมีภัย พวกห่ามๆ ควรหาเสพกันบ้าง การศึกษาต้องทำให้เข้าใจและเคารพความเป็นมนุษย์ทุกรูปแบบ

ถ้าพูดถึงระดับฐานะทางสังคมก็อีกประเด็นหนึ่ง คนจนต้องทำงานหนัก ต้องยอมอะไรหลายๆ อย่าง ..อย่างกรณีนี้มันเป็นภาพที่“น่าขยะแขยง” กับการใช้เศษเงิน ( ที่ไม่รู้เงินสะอาดหรือเปล่า ) แลกกับการได้ทำร้ายคนจน คนสติปัญญาบกพร่องเอาความสะใจ เอาคอนเทนท์บ้าๆ บอๆ ซึ่งน่าจะเข้าข่ายละเมิดเพราะคนโดนกระทำเขาอาจไม่มีความสามารถในการปฏิเสธ ..ซึ่งเนื้อหาแบบนี้ถ้าเราปล่อยผ่าน ในสังคมที่สื่อโซเชี่ยลมีอิทธิพลมาก เด็กไทยเป็นล้านไถติ๊กต่อกเป็น ถ้าพ่อแม่ผู้ปกครองปล่อย เด็กก็เสพคอนเทนท์ไม่เหมาะสมพวกนี้ไปจนคิดว่ามันเป็นความธรรมดา

เปิดปีใหม่ หวังว่า คดีนี้จะไม่เงียบหายและเป็นบทเรียนให้สังคมถึงเรื่องการเคารพความเป็นคน.