ทั้งนี้ ไทยเป็นเมืองร้อน และปัจจุบันแม้ฤดูฝนไทยก็ยังมีสภาพอากาศร้อน โดย “สภาพอากาศทั้งร้อนทั้งฝน” แบบนี้ก็ “ยิ่งต้องระมัดระวังโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ” เพราะ “ต้นเหตุโรคหลายชนิดยิ่งแผลงฤทธิ์” เริงร่า!!…

ยุคนี้ “โรคประจำฤดูฝนยิ่งต้องระวัง”

และก็ “ต้องระวังภูมิแพ้ฤดูฝนด้วย

ต้องระวัง “แม้จะไม่เคยเป็นภูมิแพ้!!”

วันนี้ ณ ที่นี้ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ขอร่วมเตือนย้ำ โดยสะท้อนต่อข้อมูล-สะท้อนย้ำว่า… แม้ไม่ใช่คนที่มีอาการภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัว ไม่เคยเป็นภูมิแพ้มาก่อน ก็ ไม่ควรประมาทกลุ่มโรคภูมิแพ้ในฤดูฝน”ดังที่ ศ.พญ.ดร.อรพรรณ โพชนุกูล ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์ความเป็นเลิศโรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้เคยให้ข้อมูลเตือนไว้ผ่านบทความที่เผยแพร่ไว้ทางwww.tu.ac.th ซึ่งเนื้อหาที่น่าตระหนักนั้น โดยสังเขปมีว่า…

“ปัจจุบันมีทฤษฎีที่เรียกว่า Epigenetics ที่หมายถึง… สิ่งแวดล้อมมีผลกับพันธุกรรม และทำให้เกิดโรคได้ ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ตอบข้อสงสัยที่ว่า… ทำไมคนถึงเป็นโรคภูมิแพ้เยอะขึ้น แม้คนในครอบครัวจะไม่เป็นโรคภูมิแพ้เลยก็ตาม โดยทฤษฎีดังกล่าวอธิบายว่า… สิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิต อาหารการกิน ล้วนมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของยีน หรือสารพันธุกรรม ซึ่งทำให้คนยุคนี้สามารถเป็นภูมิแพ้ได้ง่ายขึ้น”…ทางแพทย์-ทางนักวิชาการด้านการแพทย์ท่านดังกล่าวเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจไว้

พร้อมสะท้อนข้อมูลด้านการแพทย์ไว้อีกว่า… ฤดูฝน” เชื้อโรคหลายชนิดเจริญเติบโตได้ดีกว่าปกติ จำเป็นต้องระมัดระวังโรคที่มาพร้อมฤดูฝน”อาทิ… กลุ่มโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งมักเกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย โดยแพร่ผ่านน้ำมูก น้ำลาย เสมหะ ติดต่อโดยสัมผัสผ่านการไอ จาม โดยโรคที่พบบ่อย ๆ ได้แก่ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบ

อ้อช่วงนี้ก็ต้องระวังโควิดกันอีกนะ”

กลับมาที่คำเตือนให้ระวัง โดย .พญ.ดร.อรพรรณ ก็ยังมีส่วนที่ระบุไว้ว่า… นอกจากกลุ่มโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจแล้ว ก็ยังมี กลุ่มโรคติดเชื้อทางผิวหนัง ที่มีทั้ง… ผื่นผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา โรคเกลื้อน ผื่นผิวหนังอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด โรคน้ำกัดเท้า ผื่นผิวหนังอักเสบจากแมลง รวมถึง โรคที่มียุงเป็นพาหะ อย่างเช่น… ไข้เลือดออก ไข้ซิกา ไข้สมองอักเสบ อีกทั้งต้องระวัง กลุ่มโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส อาทิ… ท้องร่วงเฉียบพลัน เยื่อบุตาอักเสบ โรคมือเท้าปาก เป็นต้น …และนอกเหนือจากกลุ่มโรคต่าง ๆ ดังที่ระบุตัวอย่างมาข้างต้นแล้ว อีกกลุ่มโรคที่หลัง ๆ ยิ่งพบมากในฤดูฝน ก็คือ…

กลุ่มโรคภูมิแพ้ฤดูฝน”ที่ก็ต้องระวัง

ทางอาจารย์แพทย์ท่านเดิมเผยแพร่ข้อมูลไว้อีกว่า… ฤดูฝน คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ก็ยิ่งต้องดูแลตัวเอง ขณะที่ “ภูมิแพ้ฤดูฝน” ทั้งคนที่เป็นภูมิแพ้อยู่เดิม และไม่เคยเป็น ก็ควรทำความเข้าใจ ซึ่งถ้า แบ่งตามระบบที่มีอาการจะแบ่งได้ 5 ประเภท กล่าวคือ… 1.ภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ เช่น จาม มีน้ำมูก คัดจมูก ไอเรื้อรัง หอบเหนื่อยง่าย 2.ภูมิแพ้ทางผิวหนัง เช่น ผื่นแดง คัน ผิวแห้ง 3.ภูมิแพ้ขึ้นตา เช่น ตาแดง คันตา น้ำตาไหล 4.ภูมิแพ้ระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสียง่ายเวลาแพ้อาหาร หรืออาเจียน ถ่ายเป็นเลือด และ 5.ภูมิแพ้ในหลายระบบ เช่น มีอาการภูมิแพ้เกิดขึ้นทั้งผิวหนัง ทั้งทางเดินหายใจ เป็นต้น

“หลายคนมักเข้าใจผิดว่า… โรคภูมิแพ้ คือการมีภูมิคุ้มกันต่ำ แต่จริง ๆ แล้วโรคภูมิแพ้คือการมีภูมิไวเกิน กล่าวคือ การที่เรามีภูมิในร่างกายมากเกินจนตอบสนองต่อสิ่งเร้ามากผิดปกติ ซึ่งลักษณะสำคัญของโรคภูมิแพ้คือ เป็นเรื้อรัง มีอาการเป็น ๆ หาย ๆ” …นี่ก็เป็นข้อมูลที่ทาง .พญ.ดร.อรพรรณ เผยแพร่สร้างความเข้าใจไว้เกี่ยวกับ “ภูมิแพ้” รวมถึง “ภูมิแพ้ฤดูฝน”

ทั้งนี้ ยิ่งในช่วงนี้เป็นช่วง “ฤดูฝน” กับคนที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้วก็ยิ่งต้องระวังตัวเอง เนื่องจาก ช่วงฤดูฝนจะมีสารก่อภูมิแพ้เยอะ ที่มีปัจจัยจากความชื้น อาทิ… ไรฝุ่น ที่ชอบอากาศชื้นนอกจากนี้ก็ยังมี เชื้อรา กับ สารก่อภูมิแพ้ในบ้าน เช่น ฝุ่น ที่เกาะอยู่ตามเครื่องใช้ภายในบ้าน รวมถึงระวังการติด เชื้อไวรัส ซึ่งคนที่เป็นภูมิแพ้จะติดเชื้อไวรัสแล้วเป็นหวัดได้ง่าย

ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่คนเป็นภูมิแพ้มักจะต้องเจอในฤดูฝนก็คือ อาการภูมิแพ้ทางเดินหายใจกำเริบ โดยในช่วงฤดูฝนมักจะมีอาการ ได้แก่… จาม มีน้ำมูก คัดจมูก หรือหากได้รับฝุ่นหรือเชื้อราเข้าร่างกายก็มักจะมีอาการหอบง่าย และไอง่าย ในช่วงกลางคืน และยิ่งกระตุ้นให้มีอาการนอนกรนมากขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นผลจากการที่ระบบทางเดินหายใจมีปัญหาจากภูมิแพ้

ขณะที่ แนวทางป้องกันภูมิแพ้ นั้น ทาง .พญ.ดร.อรพรรณ โพชนุกูล แนะนำไว้ว่า… คนที่เป็นภูมิแพ้ก็ควรใช้ยาที่มีอยู่ต่อเนื่องทุกวันเพื่อป้องกันอาการกำเริบควรใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และที่ต้องเน้นย้ำไว้ด้วยคือ… คนที่ไม่เคยเป็นภูมิแพ้ก็มีสิทธิเจ็บป่วยจากสารก่อภูมิแพ้ได้ในช่วงฤดูฝน ซึ่งกรณีนี้ก็มีหลักฐานผลศึกษาที่ยืนยัน โดย “ปัจจัยสภาพแวดล้อม” นั้นก็ “ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ทำให้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ได้แม้ไม่เคยเป็น” ดังนั้น…

ย้ำ “ฤดูฝนยิ่งต้องระวังกลุ่มโรคภูมิแพ้”

นอกจากภัยอื่น ๆ ก็ “ระวังภัยภูมิแพ้”

ที่ก็ “รวมถึงภัยภูมิแพ้ฤดูฝนด้วย!!”.

ทีมสกู๊ปเดลินิวส์