ทั้งนี้ แม้แผ่นดินไหวแรง ๆ จะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่ไทยก็ยังมี “ภัยพิบัติ” อื่น ๆ ที่ “ต้องเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือให้ดีพอ” ดังที่ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ได้สะท้อนไปในตอนที่แล้วซึ่งกรณีภัยแผ่นดินไหว กับการพัฒนานวัตกรรมขึ้นมาใช้งาน ในชื่อ “อ้อมกอดฉุกเฉิน” หรือ Baby Safe Box” เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นอีก นี่ก็ “กรณีศึกษาน่าสนใจ”…

เป้าหมายคือ “อพยพทารกแรกเกิด”

เพื่อการ “นำไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้”

อย่างมีประสิทธิภาพ “ในช่วงมีวิกฤติ”

เกี่ยวกับนวัตกรรมดังกล่าว เป็นหนึ่งในผลงานที่มีการนำเสนอในเวที ประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติด้านการจัดการความเสี่ยงและภัยพิบัติ ครั้งที่ 3 จัดโดยเครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย (TNDR) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” มีโอกาสได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งนอกจากจะมีเวทีเสวนาด้านการจัดการความเสี่ยงต่อภัยพิบัติแล้ว ยังมีการนำเสนอผลงานวิชาการและนวัตกรรมอีกด้วย และหนึ่งในผลงานน่าสนใจก็รวมถึงนวัตกรรมชื่อ “อ้อมกอดฉุกเฉิน (Baby Safe Box)” ผลงานของ ทีมวิจัยคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี

ที่คิดค้นนวัตกรรม “เพื่อเซฟชีวิตทารก”

เซฟ “ยามที่เกิดภัยพิบัติ-เหตุฉุกเฉิน”

นวัตกรรม “อ้อมกอดฉุกเฉิน” ที่เป็นผลงานการพัฒนาโดยทีมวิจัยคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ดังกล่าวนี้ ได้มีการนำไปทดลองนำร่องใช้งานในโรงพยาบาลระยอง จ.ระยอง เนื่องจากพบว่า… โรงพยาบาลดังกล่าวมีหอผู้ป่วยทารกแรกเกิด และหน่วยบำบัดผู้ป่วยวิกฤติทารกแรกเกิด ตั้งอยู่บนชั้น 10 ของอาคาร ซึ่งทำให้ถ้าหากเกิดเหตุอุบัติภัย การอพยพทารกแรกเกิดให้ปลอดภัยและรวดเร็วจะยิ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง และเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว คณะผู้วิจัยจึงพัฒนา “อ้อมกอดฉุกเฉิน” หรือ Baby Safe Box” ขึ้นมา เพื่อจะสร้างความปลอดภัยให้กับทารก และสร้างความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ทีมวิจัยได้มีการนำเสนอไว้… การอพยพและดูแลผู้ป่วยทารกแรกเกิดในภาวะวิกฤตินับเป็นหนึ่งในความท้าทายทางการแพทย์ ซึ่งหน่วยบำบัดผู้ป่วยวิกฤติทารกแรกเกิดของโรงพยาบาลระยองตั้งอยู่บนอาคารสูง ทำให้การมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการเคลื่อนย้ายทารกในภาวะฉุกเฉินให้ทันเวลา และมีความปลอดภัย จึงยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ ทีมวิจัยจึงได้คิดค้นนวัตกรรมนี้ขึ้น ซึ่งออกแบบให้สอดคล้องกับบริบทโรงพยาบาลนี้ โดยเน้นความปลอดภัยและความรวดเร็วในการขนย้ายทารกที่เปราะบาง ที่สำคัญต้องเป็นอุปกรณ์ที่เพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ในขณะใช้งานอุปกรณ์ด้วย ต้องมั่นใจได้ว่า…

สามารถจะ “ลดความเสี่ยงให้กับทารก”

ทารกต้อง “ลดเสี่ยงบาดเจ็บ-เสียชีวิต”

จากโจทย์นี้ จึงนำสู่การตั้งโจทย์วิจัยเพื่อพัฒนาอุปกรณ์ดังกล่าว ผ่านแนวคิดตั้งต้นจากอุปกรณ์ดั้งเดิมสำหรับใช้ในการอพยพทารกแรกเกิด อย่าง “WEEVAC 6” ที่เป็นเปลหามฉุกเฉิน ซึ่งได้รับการต่อยอดหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเม็กซิโกเมื่อปี ค.ศ. 1985 โดยทีมวิจัยได้นำมาพัฒนาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์การใช้งานของไทยมากขึ้น

สำหรับการทดสอบหลังมีการปรับปรุงพัฒนาจนเป็นอุปกรณ์ อ้อมกอดฉุกเฉิน”นั้น ได้ผลทดสอบดังนี้… 1.รองรับทารกได้สูงสุด 3 คนแบบแยกช่องเดี่ยว ทำให้ลดความเสี่ยงจากการบรรทุกหลายคนในช่องเดี่ยว, 2.มองเห็นทารกได้ชัดเจน เนื่องจากใช้วัสดุโปร่งใส ที่แข็งแรง ทนแรงกระแทกและกันความร้อนได้ ทำให้สังเกตอาการทารกได้ตลอดเวลาขณะเคลื่อนย้าย, 3.สามารถจัดท่าทารกได้โดยไม่เปิดฝา เพราะมีช่องสอดมือ 2 ช่องด้านข้าง, 4.เจ้าหน้าที่ 1 คนก็สามารถใช้งานได้ เพราะมีสายสะพายด้านหน้าและสายคาดเอวรองรับน้ำหนัก และ 5.พกพาสะดวก โดยสามารถพกพาแบบเป้ หรือปรับให้เป็นแบบสะพายเอวได้ …เหล่านี้เป็น “ข้อดี” ของ “อุปกรณ์อพยพทารก” ที่พัฒนาโดยคณะนักวิจัย ม.บูรพา จ.ชลบุรี

“จากการทดลองนำไปใช้งาน พบว่าสามารถดำเนินการได้จริง ซึ่งบุคลากรที่ทดลองใช้อุปกรณ์นี้ร้อยละ 97 มีความพึงพอใจต่อต้นแบบนวัตกรรมดังกล่าว” …เป็นข้อสรุปที่มีการนำเสนอไว้ในเวทีจากทีมวิจัย “อ้อมกอดฉุกเฉิน-Baby Safe Box”

อย่างไรก็ดี แม้นวัตกรรมดังกล่าวจะใช้งานได้ดี แต่ทางทีมวิจัยก็ยังมุ่งหวังที่ จะพัฒนาและปรับปรุงอุปกรณ์นี้ให้ใช้งานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีก โดยมองว่าควรจะต้องปรับปรุง “อ้อมกอดฉุกเฉิน” ในประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้คือ 1.ปรับปรุงตำแหน่งจุดยึดสายสะพายที่ติดตั้งบนตัวกล่องโดยตรง ป้องกันกรณีที่อาจส่งผลต่อความแข็งแรงของกล่อง โดยกล่องควรรับน้ำหนักเฉพาะน้ำหนักของเด็กทารกและอุปกรณ์ที่จำเป็นเท่านั้น, 2.ควรติดตั้งพัดลมดูดอากาศขนาดเล็กเพื่อให้เกิดแรงดันลบภายในกล่อง เพื่อกรองอากาศขณะเคลื่อนย้าย, 3.ติดตั้งถุงมือแบบใช้แล้วทิ้ง บริเวณช่องสอดมือทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น

นี่เป็น “ตัวอย่างเตรียมรับมือภัยพิบัติ”

ที่ “เตรียมแล้วก็จะพัฒนาให้ดีขึ้นอีก”

เป็นอีก “นวัตกรรมที่น่าสนับสนุน”.

ทีมสกู๊ปเดลินิวส์