จะดุน้อยลง?…หรือจะดุมากยิ่งขึ้น?…คงยังไม่มีใครชี้ได้ชัดเจน สำหรับ “สถานการณ์ดุ ๆ ในเมืองไทยในปีใหม่ 2565“ ที่ยังหวั่น ๆ กันว่าจะเป็น “ปีพยัคฆ์ดุร้าย??“ ที่นอกจาก “ปัญหาเศรษฐกิจ-ปัญหาปากท้อง” แล้ว กับสถานการณ์ “โควิดโอมิครอน” ก็ยังเป็นประเด็นระทึกที่ต้องติดตาม-ต้องระมัดระวังตัวกันต่อเนื่อง ซึ่งกับ “ภาวะไม่แน่นอน” ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมา 2 ปี คือช่วงปี 2563-2564 และก็ลากยาวข้ามมาถึงปี 2565 นี้ด้วยนั้น…ภาวะดังกล่าวนี้ก็ทำให้ ’จิตใจคนไทยบอบช้ำ“ ไม่ใช่น้อย!!…

จาก ’ความวิตกกังวล“ ที่พุ่งเข้ามา ’รุมเร้าชีวิต“
หลาย ๆ คนเกิด ’ปุจฉา??“กับ “ปีพยัคฆ์ 65” นี้…
มีคาถาอะไร??“ที่จะ ’ใช้ปลุกใจคนไทยให้สู้??“…

เกี่ยวกับเรื่องนี้กรณีนี้ ก็มี “คำแนะนำ” มีแนวทางน่ารับฟัง ที่หลายคนน่าจะนำไปปรับใช้เพื่อ “ปลุกใจรับมือปี 2565” นี้ได้ โดยเริ่มจากคำแนะนำของ ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต ที่ได้แนะแนวทางเอาไว้ว่า… สำหรับแนวทางที่อยากให้ก็คือ อยากให้ทุก ๆ คนเริ่มจากการ ’ประเมินตัวเอง“ ว่า… ในช่วงปีที่ผ่านมานั้นทำอะไรดี ๆ เอาไว้บ้าง โดย อาจใช้วิธีเขียนใส่กระดาษ หรือ อาจใช้วิธีนั่งทบทวนตัวเอง เพื่อประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นในรอบปี 2564 ที่ผ่านมา หรือ อาจพูดคุยกันในครอบครัว โดยช่วยกันประเมินว่า… ในปีที่ผ่านมาเราได้มีการ “ปรับตัวปรับกายปรับจิตใจ” ในวิกฤติต่าง ๆ อย่างไรบ้าง???

ส่วนตัวเชื่อว่า…ทุกคนจะสามารถเรียบเรียงเรื่องราวและประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ออกมาได้ ซึ่งเมื่อเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมาออกมาได้แล้ว ทุกคนก็จะมองเห็นว่า…แม้อยู่ในช่วงวิกฤติ แต่ก็ยังมีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนมีพลังพร้อมที่จะสู้ต่อในปีใหม่ เพราะแม้แต่ปีที่ยาก ๆ ก็ยังเอาตัวรอดมาได้เลย“

พร้อมกันนี้ทางโฆษกกรมสุขภาพจิตยังให้แนวทางการ “ปลุกใจพร้อมสู้” สำหรับการดำเนินชีวิตในปี 2565 ไว้อีกว่า… อีกวิธีที่ดีเช่นกัน นั่นคือ… การค้นหาเรื่องราวดี ๆ นำมาบอกเล่าเพื่อให้กำลังใจกับตัวเอง คนรอบข้าง คนในครอบครัว และอาจจะ ขยายจุดดีที่มีอยู่เดิม นำมาใช้ยึดเหนี่ยวใจให้สู้ต่อไปให้ได้ในปีใหม่ อย่างไรก็ดี การจะดูแลสุขภาพจิตให้ดี ก็จำเป็นจะต้องดูแลสุขภาพกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ด้วย ซึ่งหากทุกคนสามารถทำได้ ก็เชื่อว่า… ปี 2565 จะสาหัสแค่ไหนคนไทยก็ผ่านได้!!!“

นอกจากนั้น ดร.นพ.วรตม์ ยังให้คำแนะนำไว้เพิ่มเติม เพื่อจะ “เพิ่มพลังใจ” สำหรับคนไทยทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่ม ว่า… เมื่อประเมินตัวเองและคนในครอบครัวดีแล้ว จากนั้นควรกลับมามองว่า… ปี 2565 เราพร้อมที่จะทำอะไรได้มากกว่าปี 2564 เช่น สิ่งใดที่ทำได้ดีอยู่แล้ว ปี 2565 ก็ให้ตั้งใจทำให้ดีมากกว่าเดิม หรืออะไรที่ยังขาดหายไป ก็ควรหาวิธีที่จะเพิ่มเติมเข้าไปให้เต็ม ส่วนอีกวิธีหนึ่งที่น่าจะเป็นแนวทางที่ดีเช่นกัน คือการ ’ตั้งเป้าหมายให้ชีวิต“หรือ “นิวเยียร์ เรสโซลูชั่น (New Year Resolution)” ที่เป็นการ “วางแผนว่าปี 2565 ตั้งใจจะทำอะไร??” เพื่อ “หาพลังบวกมาเป็นภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง!!”

การควบคุมอารมณ์ การลดความเครียด ไม่สร้างความเครียดใหม่ ๆ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตของคนไทยทุกคนในปี 2565 เพราะไม่มีใครรู้ว่า…ในอนาคตสถานการณ์ที่เราจะต้องเผชิญจะเป็นอย่างไร?? ดังนั้น การเตรียมตัว เตรียมใจ ปรับจิตใจให้พร้อมรับมือ น่าจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ไม่มากก็น้อย“…ดร.นพ.วรตม์ ระบุไว้

อีกทั้งยังได้เน้นย้ำถึง “คนไทยในปีใหม่ 2565” ไว้ว่า…ในปี 2564 ที่ผ่านมา เชื่อว่า…คนไทยได้เรียนรู้มาหมดแล้วว่า… ’จะต้องเอาตัวรอดเช่นไร?“รวมถึงจะมีวิธีผ่อนคลายความเครียดอย่างไร? ซึ่งในปี 2565 ก็คงจะไม่ต่างกันมาก และโดยส่วนตัวเชื่อว่า…คนไทยได้ผ่านปีที่หนักหนามาได้แล้ว จนสามารถปรับตัวรับมือวิกฤติ และสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้น ในปี 2565 จึงเชื่อว่า… หลายคนน่าจะ “มีความกังวลลดลง-ทุกข์ใจน้อยลง” เพราะได้เคยผ่านสถานการณ์ร้าย ๆ มาได้แล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากจะฝากไว้ และที่อยากจะแนะนำไว้เพิ่มเติม ก็คือ… ปี 2565 คนไทยต้องหาความสุขให้กับตัวเองมากขึ้น”เพื่อ “หล่อเลี้ยงชีวิต” เพื่อ “ไม่ให้เครียดเกินไป”

ทั้งนี้ ทางด้าน รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ก็ได้แนะนำเสริมในเรื่องนี้กรณีนี้เอาไว้ว่า… การปรับสภาพจิตใจให้พร้อมสู้กับวิกฤติในปีใหม่ 2565 คำแนะนำที่มีคือ… เริ่มจากการ… เปิดใจยอมรับ“ ที่เป็น“โหมดลดความเครียดด้วยตัวเอง”เพื่อทำให้สภาวะความตึงเครียดเบาลงด้วยตัวเราเอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งใคร ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เปิดใจยอมรับนั้น กรณีนี้อาจจะยิ่งทำให้ปัญหาหรือวิกฤติชีวิตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น…ลุกลามบานปลายมากขึ้น!! จนก่อให้เกิดการปะทะกันทางอารมณ์!!…

ต่อมาคือการ… พัฒนาตัวเอง“ ซึ่งมีทั้งหมด 3 เรื่อง ได้แก่… 1.พัฒนาร่างกายให้แข็งแรง เพื่อให้พร้อมสู้กับโรคต่าง ๆ 2.พัฒนาจิตใจให้เข้มแข็ง ด้วยการประเมินความเครียดสะสม เพื่อเตรียมสภาพจิตใจให้พร้อมที่จะสู้ต่อ 3.เตรียมอาชีพสำรองไว้ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุไม่คาดคิด โดยดูว่า…ตนเองมีจุดแข็งเรื่องใด แล้วนำมาพัฒนาเป็นอาชีพเพื่อรองรับชีวิตในอนาคต

ขณะที่เรื่องถัดมาที่แนะนำคือการ… เตรียมครอบครัว“ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดจากความเครียดจากปัญหาชีวิตรุมเร้า และสุดท้ายคือการ… สร้างความเข้มแข็งชุมชน“ เพื่อที่จะได้มีพลังร่วมกันในการ ’สู้วิกฤติ“

เหล่านี้เป็น ’คำแนะนำ-แนวทาง“ เพื่อจะปรับจิตใจ
เรา ๆ ท่าน ๆ สามารถนำไป ’ใช้ปลุกใจเพื่อสู้ต่อ“
ถ้าปี 2565 เป็น ’ปีพยัคฆ์ดุ“ ก็จะได้ ’รอดได้อีก!!“.