ถ้าหากกล่าวถึงของหวานของขนมที่สาวๆหนุ่มๆทั่วโลกชื่นชอบเชื่อว่าคงต้องมี “เค้กช็อกโกแลต” รวมอยู่ในนั้นแน่นอน เพราะด้วยรสชาติ รูปลักษณ์และความอร่อยทำให้ใครหลายๆคนได้ลองชิมแล้วเป็นต้องติดอกติดใจสุดๆ แต่ใครจะรู้บ้างว่าเค้กช็อกโกแลตเขาก็มีวันสำคัญด้วยนะ

“เดลินิวส์ออนไลน์” ไม่พลาดพาทุกคนไปไขความลับเรื่องนี้กันจ้า ตามมาจ้า

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับคำว่า “เค้ก” กันก่อน เค้กหมายถึง ขนมฝรั่งชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งสาลีผสมไข่ เนย นํ้าตาล เป็นต้น แล้วผิงหรืออบให้สุก หรือหมายความได้อีกอย่างว่า เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่มักจะมีลักษณะหวานและผ่านกระบวนการอบ ซึ่งจะทำมาจากแป้งสาลี, น้ำตาลเทียม และส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น ไข่ แป้งสาลี ผัก ผลไม้ที่ให้รสหวานหรือเปรี้ยว เป็นต้น หรือส่วนประกอบที่มีไขมัน เช่น เนย ชีส ยีสต์ นม, เนยเทียม เป็นต้น และนิยมรับประทานเป็นของหวาน และฉลองในเทศกาลต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเกิดและวันแต่งงาน ซึ่งในโลกมีตำรับหรือสูตรการทำเค้กเป็นจำนวนมาก อีกทั้งตำรับการทำเค้กบางสูตรก็มีการสืบทอดการทำเป็นเวลาหลายศตวรรษ และเค้กนั้นยังเป็นอาหารหวานที่นิยมไปทั่วโลกอีกด้วย ปัจจุบันมีผู้สนใจที่อยากจะเรียนทำเค้กเพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ มากมาย อย่างเช่น เรียนเพื่อที่จะนำมาประกอบอาชีพเปิดร้านเค้ก เป็นต้น

ชนิดของเค้ก แบ่งได้ดังนี้

  • เค้กเนย (butter cake) ส่วนผสมหลักที่ทำให้ขึ้นฟูคือเนย โดยจะตีเนยกับน้ำตาลให้เป็นครีมฟูก่อน จึงเติมไข่ นม และแป้ง แบ่งย่อยได้อีกหลายชนิด เช่น เค้กชั้น ฟรุตเค้ก และเค้กปอนด์ ซึ่งหมายถึง เค้กที่ทำจากแป้งสาลีหนึ่งปอนด์ น้ำตาลหนึ่งปอนด์และ เนยหนึ่งปอนด์
  • เค้กไข่ (foam cake) เป็นเค้กที่ขึ้นฟูโดยตีฟองอากาศเข้าไปในไข่ แบ่งย่อยเป็น 3 ชนิดคือ
    • ชิฟฟอนเค้ก (chiffon cake) ชิฟฟอนเค้ก หรือ ชีฟองเค้ก ปัจจุบันเป็นที่นิยมกันมากในกลุ่มผู้ที่ต้องการบริโภคเค้กที่มีไขมันไม่มาก และรสชาติที่ไม่เลี่ยนจนเกินไปและด้วยเอกลักษณ์ประจำตัว นั่นก็คือความนุ่มละมุนละไมอีกทั้งสามารถดัดแปลงรสชาติได้มากและหลากหลาย ทั้งยังขายง่ายต้นทุนต่ำได้กำไรสูง จึงทำให้มีผู้สนใจในการประกอบกิจการเพื่อผลิตและจำหน่ายชิฟฟอนเค้ก หรือ ชีฟองเค้กเป็นจำนวนมาก
    • เค้กไข่ขาว (angle food cake) ใช้ไข่ขาวล้วน ไม่ใส่ไข่แดงและไขมันใด ๆ แต่ใส่น้ำตาลมาก
    • สปันจ์เค้ก (sponge cake) เป็นเค้กที่ตีไข่ทั้งฟองกับน้ำตาลให้ขึ้นฟู
  • มูสเค้ก (Mousse cake) เป็นเค้กที่ตีไข่ขาวหรือวิปปิ้งครีมให้ฟูก่อนจะผสมกับส่วนผสมอื่น ทำให้เค้กนุ่ม เบา มักใส่เจลาตินเพื่อช่วยให้คงรูป และต้องแช่เย็นไว้จนกว่าจะรับประทาน
  • ชีสเค้ก (cheesecake) เป็นเค้กที่มีครีมชีสเป็นองค์ประกอบหลัก มีทั้งแบบอบ และแบบไม่อบแต่ใสเจลาตินเป็นตัวช่วยให้คงรูปร่าง ต้องแช่เย็นเช่นกัน

ทั้งนี้ วันเค้กช็อกโกแลต หรือ Chocolate Cake Day เป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองการกินเค้กช็อกโกแลต ในอเมริกาช็อกโกแลตถูกบริโภคเป็นเครื่องดื่มเป็นหลัก จนถึงทศวรรษที่ 1830 สำหรับกำเนิดของเค้กช็อกโกแลต เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1765 เมื่อแพทย์และช่างทำช็อกโกแลตร่วมมือกันในโรงสีเก่า พวกเขาบดเมล็ดโกโก้ในถังโม่ขนาดใหญ่เพื่อทำน้ำเชื่อมข้น และของเหลวนั้นถูกเทลงในแม่พิมพ์ที่มีรูปร่างเหมือนเค้ก

Eliza Leslie นักเขียนตำราอาหารยอดนิยมของฟิลาเดลเฟีย ได้ตีพิมพ์สูตรเค้กช็อกโกแลตที่เก่าแก่ที่สุดในปี ค.ศ. 1847 ในหนังสือ The Lady ซึ่งแตกต่างจากเค้กช็อกโกแลตที่เรารู้จักในปัจจุบัน สูตรดังกล่าวใช้ช็อกโกแลตสับ โดยพ่อครัวคนอื่นๆ ในยุคนั้น เช่น Sarah Tyson Rorer และ Maria Parloa ต่างก็มีส่วนร่วมในการพัฒนาเค้กช็อกโกแลต และเป็นผู้เขียนตำราอาหารมากมาย

สำหรับเค้กผสมกล่องแรกถูกสร้างขึ้นโดย บริษัท O.Duff and Sons ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1920 ต่อมาเบ็ตตี้ คร็อกเกอร์ ได้เปิดตัวเค้กผสมแห้งครั้งแรกในปี ค.ศ. 1947 และสูตรต่างๆ ก็ได้รับการพัฒนาเรื่อยมา จนกลายเป็นเค้กช็อกโกแลตรูปแบบต่างๆ ในปัจจุบันนั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจากวิกิพีเดีย