กรณีศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าทลาย “เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์” บริเวณชายแดนฝั่งประเทศไทยติดพรมแดนประเทศกัมพูชาเมื่อเร็ว ๆ นี้ เกิดขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแส “แรงงานไทยถูกลวงไปทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชาซึ่งนี่ก็ตอกย้ำว่า “ปัญหาลวงคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน” มีอยู่จริง ๆ และก็ “ไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ”

ตามรายงานข่าวนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเผยไว้ว่า… การ “ลวงคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายข้ามชาติ” โดยแก๊งอาชญากรรมแก๊งนี้มีคนไทยร่วมแก๊งด้วย โดยจะประสานกับหัวหน้าแก๊งที่เป็นคนจีนที่อยู่ในฝั่งกัมพูชา จะทำหน้าที่ลวงคนไทยไปทำงานให้แก๊ง ผ่านเว็บไซต์จัดหางาน โดยจะลวงว่ามี “งานสบาย-รายได้ดี” ให้ทำ เมื่อมีคนที่หางานทำหลงเชื่อติดต่อสมัครก็จะไปรับถึงบ้าน พาลักลอบข้ามชายแดนไปยังฝั่งกัมพูชา แล้วคนไทยที่หลงเชื่อก็จะถูกบังคับให้ทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

นี่เป็นอีกรูปแบบ “ลวงคนไทยไปทำงานข้ามชาติ”

ได้เหยื่อแล้วก็จะ “พาเหยื่อเข้าเมืองผิดกฎหมาย”

และ “งานที่บังคับเหยื่อทำก็เป็นงานผิดกฎหมาย”

อนึ่ง กรณี “คนไทยถูกตุ๋นไปทำงานข้ามชาติ” นั้น ทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ก็ได้มีการสะท้อนเตือนไว้ ได้สะท้อนไว้ให้ระวังกันให้ดี โดยเฉพาะในยุคที่ “โควิดระบาดทำให้มีคนตกงานว่างงานจำนวนมาก” ซึ่งก็ขอ “เตือนย้ำ” ไว้อีกครั้งว่านอกจากหลอกคนไทยว่าจะพาไปทำงานในต่างประเทศแต่ไม่มีการพาไปจริง ๆ แล้ว กับปัญหา “ลวงคนไทยให้ไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน” นี่ยุคนี้ “กิดเยอะ!!” ซึ่งแก๊งลวงพวกนี้ก็มักจะใช้ “เล่ห์เหลี่ยมเก่า” อย่างการใช้ประกาศรับสมัครงานที่ “ไม่จริง” คือ “งานสบาย-รายได้ดี” ซึ่งก็ยังใช้ได้ผล ในยุคโควิดนี่ยิ่งมีผู้ที่หลงเชื่อจนต้องตกเป็นเหยื่อกันมาก

ทั้งนี้ กับกรณี “หลอกคนไทยไปทำงานต่างประเทศ” นั้น การหลอกลวงแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่ปรากฏการณ์ต้มตุ๋นที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นกับคนไทย โดยเป็นเรื่องเก่า เรื่องเดิม ๆ ที่เกิดขึ้นมานานหลายยุคหลายสมัยแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม กับเรื่องนี้ปัญหานี้ก็มีประเด็นน่าพินิจ น่าตั้งคำถามว่า… เหตุใดในไทยระยะนี้จึงมีกรณี “ตุ๋นทำงานต่างแดน” เป็นกรณีครึกโครมบ่อย ๆ อีกครั้ง?? ซึ่งหลายคนก็เกิด “ปุจฉา??” ว่า… “มิจฉาชีพตุ๋นคนไทยที่สนใจไปทำงานต่างประเทศไฉนจึงคืนชีพ??” และ…

“ตุ๋นไปทำงานผิดกฎหมาย” ไฉนเกิดเยอะ??

อีกทั้งยัง “เป็นงานตุ๋นเงินคนไทย” อีกต่างหาก!!

เป็น “ภัย 2 เรื่องซ้อน” ที่ต้องสะท้อนเตือนย้ำไว้

“วิสัชนา” ของปุจฉากรณีนี้และ “มุมวิเคราะห์” เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทาง รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ก็ได้เคยสะท้อนผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ถึง “ปรากฏการณ์คนไทยถูกตุ๋นไปทำงานต่างประเทศ” ไว้ว่า… สาเหตุที่ทำให้เกิดกรณีปัญหาลักษณะนี้เพิ่มขึ้นนั้น นี่ก็เป็นเพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งโควิด-19 ระบาดได้ทำให้ ตลาดแรงงานในประเทศได้รับผลกระทบมาก จนทำให้มีคนไทยจำนวนมากที่ต้องเปลี่ยนสถานะด้านการงานกลายมาเป็นคน “ว่างงาน-ตกงาน” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ในช่วงที่มีการล็อกดาวน์คุมเข้มโควิด”

ทางนักวิชาการท่านเดิมได้สะท้อนแจกแจงผ่านทาง “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” เอาไว้ว่า…หลังพิษภัยการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในไทยเริ่มคลี่คลายลง ก็ทำให้รัฐบาลเริ่ม ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่าง ๆ เพื่อจะฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่นำไปสู่ “การจ้างงาน” ในอัตราที่เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะหลาย ๆ ภาคธุรกิจก็ยังคงไม่ฟื้นตัวในช่วงนี้ โดยสะท้อนได้จาก “อัตราการว่างงานของไทยยังไม่ลดลง” ถึงแม้ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดมาสักพักแล้ว

อย่างไรก็ตาม กับการที่ “คนไทย” ตกเป็น “กลุ่มเป้าหมาย” ของ “มิจฉาชีพหลอกคนไปทำงานต่างประเทศ” เพิ่มมากขึ้นนั้น กรณีนี้ก็ไม่ใช่เพียงเพราะคนไทยว่างงานกันมาก โดย รศ.ดร.สมชาย ได้วิเคราะห์และสะท้อนผ่าน “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้ว่า…เพราะมี คนไทยต้องการไปทำงานในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่วิกฤติโควิด-19 เริ่มคลี่คลายแล้ว ซึ่งสาเหตุปัจจัยก็มิใช่เพียงเพราะในประเทศไทยไม่มีงานให้แรงงานคนไทยทำ แต่มีประเด็น ค่าตอบแทนในต่างประเทศสูงดึงดูดใจ จนหลาย ๆ คนตัดสินใจที่จะ “ยอมเสี่ยง” และนอกจากนี้ก็ยังมีแรงงานไทยบางส่วนที่อยากไปทำงานต่างประเทศเพราะต้องการ อัพสกิลให้กับตัวเอง เพื่อที่จะนำสู่การมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น-มีผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่ทว่า…

“อย่าลืมว่า…แรงงานทุกประเทศก็ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นกัน ซึ่งแต่ละประเทศก็มีแรงงานที่ตกงาน มีคนว่างงานจำนวนมากเช่นกัน ดังนั้น ประเทศอื่นเขาต้องคิดถึงแรงงานในประเทศตัวเองเป็นหลัก ก่อนจะให้แรงงานนอกประเทศเข้าไป จึงอยากเตือนว่า…การสนใจไปทำงานต่างประเทศไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องตรวจสอบให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้” …เป็นการเตือนไว้ โดย รศ.ดร.สมชาย …และ ณ ที่นี้ก็ขอเสริมไว้อีกส่วนว่ายุคนี้ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยิ่งพุ่งเป้าหลอกเอาเงินคนไทย” ซึ่งก็มีการ “ลวงคนไทยไปบังคับให้หลอกคนไทยด้วยกัน”

“แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ยุคนี้พวกมัน “ร้าย 2 เด้งซ้อน

“ต้มคนไทยไปบังคับให้ตุ๋นคนไทย” นี่ “ต้องระวัง

ส่วน “คนไทยสมัครใจเข้าแก๊ง” ก็ “ต้องล้างบาง!!” .