เหตุจลาจลมีผู้เสียชีวิต 5 ราย รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภา 1 นาย ส่วนที่เหลือเป็นม็อบ และตำรวจได้รับบาดเจ็บ 138 นาย ส่วนฝ่ายม็อบไม่ทราบจำนวน

นายพอล ออลลาร์ด ฮอดจ์กินส์ วัย 38 ปี ชาวเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา จำเลยคนแรก เพิ่งให้การรับสารภาพ เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา  ในข้อหาอาญาร้ายแรง ฐานขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ และตกลงจ่ายเงินค่าเสียหาย แก่กระทรวงการคลัง จำนวน 2,000 ดอลลาร์

ทำให้อัยการยกฟ้อง หลายข้อหารุนแรงน้อยกว่า รวมถึง การเข้าสู่พื้นที่หวงห้าม และก่อความวุ่นวาย

หลักฐานจากภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ แสดงให้เห็นฮอดจ์กินส์สวมเยื้อยืดและแบกธงแดง “ทรัมป์ 2020” ยืนอยู่หน้าแท่นประธานในห้องประชุมวุฒิสภา ภายในอาคารสภาคองเกรส

แรนดอล์ฟ มอส ผู้พิพากษาศาลแขวงวอชิงตัน กล่าวในระหว่างการอ่านคำพิพากษา ว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2563 นับเป็นเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอเมริกา นี่ไม่ใช่การประท้วง แต่เป็นการทำร้ายประชาธิปไตย ความอัปยศจะติดตรึงอเมริกาไปอีกหลายปี

มอสกล่าวว่า คดีของฮอดจ์กินส์เป็นคดีตัวอย่าง เนื่องจากไม่เคยเกิดเหตุลักษณะนี้ (โจมตีรัฐสภา) มาก่อนในอเมริกา คำพิพากษาจะเป็นบรรทัดฐาน สำหรับการพิจารณาของศาลในอนาคต หากเกิดเหตุคล้ายกันขึ้นอีก

NBC News

คดีนี้ตำรวจติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อม็อบ ส่งฟ้องดำเนินคดีกว่า 535 คน โดยเกือบทุกคนโดนข้อหาร้ายแรงเช่นเดียวกับฮอดจ์กินส์ และหลายคนโดนหนักกว่า ฐานเป็นแกนนำ

ก่อนศาลมีคำพิพากษา นายแพทริค เลอดัก ทนายความของฮอดจ์กินส์ ร้องขอให้ศาลสั่งรอลงอาญาลูกความ แต่ผู้พิพากษามอส กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลที่ควรบรรเทาโทษ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิดซ้ำ “ถ้าเราปล่อยให้ประชาชนบุกโจมตีรัฐสภาของประเทศได้ เราจะรักษาประชาธิปไตยของเราไว้ได้อย่างไร”

แต่มอสกล่าวว่า ฮอดจ์กินส์สมควรได้รับโทษเบา กว่าที่อัยการเสนอให้จำคุก 18 เดือน เนื่องจากจำเลรายนี้ไม่ได้ทำร้ายผู้ใด รวมทั้งไม่ได้ทำลายทรัพย์สินสิ่งของของรัฐ และไม่ได้เป็นแกนนำฮอดจ์กินส์กล่าวขอโทษต่อศาล และบอกว่ารู้สึกละอายใจ ต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป “ถ้าผมรู้ล่วงหน้าว่าการประท้วงจะบานปลายอย่างที่เห็น  ผมจะไม่เดินไปไกลกว่าข้างถนนเพนซิลเวเนีย (ใกล้อาคารรัฐสภา) นี่เป็นการตัดสินใจที่โง่เขลาของผมเอง”

ระหว่างการพิจารณาไต่สวน โมนา เซ็ดกี รมช.ยุติธรรมสหรัฐ แถลงต่อศาลว่า คดีนี้เกี่ยวโยงกับ “การก่อการร้ายภายในประเทศ” ผู้ประท้วงบางส่วนยังออกจากวุฒิสภา ไปยังอาคารสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตามล่าตัวแกนนำพรรคเดโมแครต รวมถึง นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาล่าง

เซ็ดกี กล่าวว่า มีหลักฐานเสียงจากในคลิป ผู้ประท้วงที่บุกเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ร้องตะโกนถามหาเปโลซี ซึ่งถือว่าเป็นการเกินเลย จากการก่อจลาจล เข้าสู่การก่อการร้ายแล้ว และในส่วนของฮอดจ์กินส์ จำเลยรายนี้แม้จะไม่พบหลักฐานก่อความรุนแรง แต่ก็เดินปะปนอยู่ในกลุ่มที่ก่อความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินสิ่งของ ภายในอาคารวุฒิสภา.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AP