นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังคงเดินหน้าโครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างระบบน้ำในไร่นาของสมาชิกสถาบันเกษตรกร เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกของสถาบันเกษตรกรสร้างแหล่งน้ำในไร่นา เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำในพื้นที่สำหรับทำการเกษตร เป็นการช่วยเหลือให้สามารถทำการเกษตรได้ต่อเนื่อง ลดการพึ่งพิงน้ำฝนเพียงอย่างเดียว ส่งผลให้ครัวเรือนสามารถมีรายได้และมีความมั่นคงในอาชีพทำเกษตรมากขึ้น เงินกู้ที่ได้ กรมจะจัดสรรให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร นำไปปล่อยกู้แก่สมาชิกแบบปลอดดอกเบี้ย โดยกำหนดให้สมาชิกกู้ได้รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท สำหรับขุดสระน้ำหรือบ่อบาดาล เพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม เนื่องจากที่ผ่านมา หลายพื้นที่ยังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำไม่เพียงพอทำการเกษตร                           

นางบัวผัน ยินดี สมาชิกสหกรณ์นิคมแคนดง จำกัด จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า โชคดีที่ได้กู้กองทุนนี้ 5 หมื่นบาท และตนเองได้ไปกู้สหกรณ์มาเติมอีก 5 หมื่นบาท เพื่อเจาะบ่อบาดาล ซึ่งก่อนหน้านั้นที่ดิน 10 ไร่ ทำนาปี ได้หนึ่งครั้งเท่านั้น บางปีแล้งจัดลงทุนไร่ละ 5 พันบาท ข้าวก็เสียหาย หลังมีบ่อบาดาลครอบครัวดีใจมาก ทำนาได้ผลและหลังนาสามารถปลูกข้าวโพดกินฝักทั้งข้าวโพดหวานข้าวโพดข้าวเหนียวและถั่วลิสงเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัวทั้งปี โดยจะขายข้าวโพดในราคาฝักละ 5-10 บาท ถั่วลิสงกิโลกรัมละ 30 บาท ทำให้มีเงินใช้หมุนเวียนในบ้านทุกวันไม่น้อยกว่า 500 บาทต่อวัน นอกจากนั้นเมื่อมีน้ำยังได้เลี้ยงวัวอีก 4 ตัวโดยได้มูลวัวมาเป็นปุ๋ยใส่ข้าวโพด ไม่ต้องซื้อมูลวัวที่เดิมต้องซื้อครั้งละ 30 กระสอบ กระสอบละ 40 บาท และต้นข้าวโพดยังนำมาสับเป็นอาหารวัวได้อีกด้วย ซึ่งสำหรับวัวนั้น จะเป็นเงินก้อนใหญ่สำหรับครอบครัวในอนาคต

นายอ่อนสา จงใจดี สมาชิกสหกรณ์การเกษตรคูเมือง จำกัด จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่าเป็นเกษตรกรที่อยู่ในโครงการระยะที่ 1 โดยกู้ 5 หมื่นบาทเพื่อมาทำสระน้ำ 2 แห่งและบ่อบาดาลโดยลงทุนจริงทั้งหมด 7 หมื่น ซึ่งตนเองทำนา 14 ไร่เป็นข้าวหอมมะลิใช้น้ำฝนเป็นหลัก ในช่วงแล้งแม้ปลูกผักขายก็ขาดแหล่งน้ำหลังจากได้แหล่งน้ำ ได้ขยายพื้นที่ 4 ไร่สำหรับทำเกษตรกรผสมผสานเน้นผักสวนครัว ส่วนมากเป็นพริก ผักบุ้ง ผักกาดพื้นเมืองเพื่อเป็นรายได้สำหรับใช้ประจำวันปกติจะมีรายได้ประมาณ 500-700 บาท แต่จากสถานการณ์โควิดทำให้ตลาดไม่ค่อยมีคน จึงได้ปรับการขายโดยใส่รถซาเล้งไปขายทำให้มีรายได้ลดลงเหลือประมาณ 300-500 บาทต่อวัน ซึ่งแม้จะน้อย แต่ก็ยังเพียงพอสำหรับการใช้ 2 คนกับภรรยา ส่วนลูก ๆ ไปทำงานในเมือง จึงถือว่าชีวิตดีกว่าเดิมจาก ที่ต้องรอขายข้าวเพียงเดียว

ทั้งนี้ โครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างระบบน้ำในไร่นาของสมาชิกสถาบันเกษตร ระยะที่  2 วงเงิน 500 ล้านบาท คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้เมื่อ 24 ก.พ. 2563 เพื่อให้กรมดำเนินการเป็นระยะที่ 2 โครงการปี 2563-68 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ระยะเวลาปลอดการชำระหนี้ต้นเงิน 2 ปี แบ่งชำระคืน 4 งวดเริ่มงวดแรก มี.ค. 2565 มีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการ 51 จังหวัด ได้อนุมัติเงินกู้แล้วเสร็จ เป็นสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรรวม 384 แห่ง แยกเป็นสหกรณ์ 273 แห่ง กลุ่มเกษตรกร 111 แห่ง สมาชิก 10,297 ราย ซึ่งกรมได้มีการดำเนินการตรวจสอบและจัดทำพิกัด พบว่าสมาชิกขุดสระกักเก็บน้ำ 3,258 ราย ขุดเจาะบ่อบาดาล 6,833 ราย จัดซื้ออุปกรณ์ 149 ราย ทั้งนี้ มีกำหนดส่งคืนเงินกองทุนงวดแรกจำนวน 120 ล้านบาท ภายในเดือน เม.ย.2565