เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 29 มิ.ย. ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ และนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมกันแถลงขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่เตรียมยกระดับปัญหาช้างป่าเป็นวาระแห่งชาติ
 
นพ.บัญญัติ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยการแก้ปัญหาช้างป่า ที่กระทบประชาชนในพื้นที่หลาย 10 จังหวัด โดยมอบนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุมหยิบยกวาระการแก้ปัญหาช้างป่าเป็นวาระแห่งชาติ โดยจะตั้งคณะกรรมการระดับชาติแก้ปัญหาช้างป่า พร้อมทั้งตั้งคณะอนุกรรมการย่อย รวมถึงจะปรับปรุงอัตราค่าเยียวผู้ได้รับผลกระทบจากภัยช้างป่า ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น แสดงให้เห็นว่า วันนี้รัฐบาลขานรับแล้ว โดยมีตัวแทนเครือข่ายประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เมื่อทราบว่านายกฯ มาบัญชาการแก้ปัญหาด้วยตนเอง ก็เป็นความหวังที่ปัญหาภัยช้างป่าจะได้รับการแก้ไข ซึ่งในส่วนของสภาฯ มีการตั้งคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาแก้ปัญหาช้างป่า ซึ่งพิจารณาเสร็จแล้ว โดยประธานสภาฯ บรรจุอยู่ในวาระการประชุมแล้ว คาดว่าจะได้รับการพิจารณาเร็วๆ นี้ หากที่ประชุมสภาฯ ได้รับทราบรายงานแล้ว ก็จะส่งเรื่องไปให้รัฐบาลเป็นแนวทางแก้ปัญหาช้างป่าต่อไป

ขณะที่ นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าที่ประชุม กมธ. ได้พิจารณางบประมาณภาพรวมของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่งมี กมธ.ส่วนใหญ่ท้วงติงเรื่องการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเสนอแนะและสะท้อนว่ามีประชาชนร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก จากกรณีที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรฯ มาหลอกให้โอนเงิน ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์รู้ถึงข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของประชาชน เพราะมีการซื้อขายข้อมูลส่วนตัว สามารถเลือกบัญชีเป้าหมายได้ตามความต้องการของมิจฉาชีพ เมื่อประชาชนถูกหลอกให้โอนเงินแล้วจะมีการโอนเงินจากบัญชีที่รับโอนภายใน 5 นาที

ส่วนใหญ่จะมีการโอนในวันเสาร์และวันอาทิตย์ เพื่อที่จะไม่ให้เหยื่อสามารถไปทำธุรกรรมได้เหมือนวันปกติ และปกติคนไทยมีซิมโทรศัพท์เพียงแค่ 1-2 ซิม แต่จากการตรวจสอบบางคนมีเบอร์โทรศัพท์ 4,000 ซิม หรือ 5,000 ซิมบ้าง นี่คือสิ่งที่ กมธ.ต้องการให้กระทรวงดีอีเอสรีบไปดำเนินการ โดยให้ปัญหานี้เป็นวาระแห่งชาติ และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดีอีเอส ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานกฤษฎีกา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรมประชาสัมพันธ์