ไอ้ที่มันที่สุดมันจะอยู่ตรงวันโหวต เพราะมี “เสียงสวิง” ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย และเคยเป็นคนดูแลพรรคเล็กขณะที่ยังเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีงูเห่าฝากเลี้ยงในพรรค พปชร.อีกกี่คนที่พร้อมจะสวิงเสียงมาโหวตคว่ำ “รัฐมนตรีปากดี” ตามที่ ร.อ.ธรรมนัส เคยพูด

ดูจากภาวะเวลาแล้ว เชื่อว่า “ไม่น่าจะถึงขั้นโหวตคว่ำนายกฯ” เพราะถ้าคว่ำไปก็ต้องโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ ไม่ใช่เลือกตั้งใหม่  บัญชีนายกฯ ของฝ่ายค้านตอนนี้ก็เหลือแค่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย นายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทย ส่วน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ก็แสดงความจำนงแล้วว่าขอทำงานท้องถิ่น

จะให้ใช้นายกฯ นอกบัญชีพรรคการเมือง ต้องประชุมรับรองกันวุ่นวายหลายขั้นตอน ตั้งแต่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาบอกว่า ไม่สามารถเลือกนายกฯ จากบัญชีที่เหลืออยู่ได้ แล้วก็ต้องลงมติให้เสนอชื่อนายกฯ นอกบัญชี โดยให้เฉพาะสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้นที่เสนอชื่อได้ และรับรองด้วยสองสภา กระบวนการมันยุ่งยากและนาน

แล้วระยะเวลาที่นายกฯ จะดำรงตำแหน่ง ก็เหลือเท่าอายุสภา ที่จะสิ้นสุดลง มี.ค. 66 ระยะเวลามันสั้นเกินกว่าจะทำอะไรได้เห็นผลงานชัด เว้นแต่พรรคฝ่ายค้านวางแผนไว้แล้วว่า ถ้าคว่ำ “บิ๊กตู่” ได้ แล้วชิงเวลาที่เหลือมาบริหารประเทศจะสร้างผลงานจนเลือกตั้งใหม่แลนด์สไลด์ได้ ..คือพูดง่ายๆ คิดว่าคว่ำแล้วคุ้ม ก็อาจทำ

ดังนั้น ในภาวะที่รัฐบาลเสียงปริ่มเช่นนี้ ตอนโหวตอาจมีแค่การสั่งสอนรัฐมนตรีบางคน เอาท้วมๆ ก็ให้เห็นว่าคะแนนบ๊วยสุด เอาหนักๆ ก็คือรวมเสียงโหวตคว่ำไปเลย ก็คาดการณ์ได้ไม่ยากว่า ร.อ.ธรรมนัส มุ่งจะเล่นงานใคร ไม่พ้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานแน่นอน พรรคก้าวไกลก็ขู่แล้วว่า มี ส.ส.ปีกแรงงานหาข้อมูลมุ่งเชือด

ความสัมพันธ์ระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส กับ นายสุชาติ นั้นดูไม่ลงรอยกัน มันมาจากตอนที่นายสุชาติทำไลน์หลุดเรื่อง ร.อ.ธรรมนัส ทำโพล ส.ส.ใต้ และ ส.ส.กรุงเทพฯ ว่า ใครคะแนนดีไม่ดี เพื่อพิจารณาส่งเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งทำให้ในพรรค พปชร. อึ้งกันไปพอสมควรเพราะ ส.ส.สองกลุ่มนี้ไม่ได้สังกัดมุ้งไหนชัด

ก็เลยวิจารณ์กันว่า ร.อ.ธรรมนัส ต้องการรวบอำนาจเข้ามุ้งตัวเอง ข่าวว่ากลายเป็นสร้างความเดือดดาลให้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. เรียกประชุมพรรคด่วนคืนนั้น จบลงด้วยการที่ ร.อ.ธรรมนัส เป็นฝ่ายต้องยกกลุ่มออกจากพรรคไป

และ ร.อ.ธรรมนัส ก็ดูเหมือนมีภาพไม่เอาด้วยกับ “บิ๊กตู่” อารมณ์แบบติดใจตั้งแต่นายกฯ ฉีกหน้าโดยการสั่งปลดฟ้าผ่าออกจากตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ โดยเหมือนราชกิจจาฯ ประกาศเอาขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส แถลงลาออกพอดี แต่การสอย “บิ๊กตู่” อาจมีกรณี “พี่ป้อมขอให้น้อง” ทำให้เป้าหมายโหวตบ๊วยหรือโหวตคว่ำมุ่งไปกล่องดวงใจนายกฯ แทน

“กล่องดวงใจ” ที่ว่าคือ นายสุชาติ คนหนึ่งแล้ว ที่ตอนหลังสัมพันธ์ใกล้ชิดนายกฯ มาก อีกคนหนึ่งคือ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ซึ่งก็มีภาพใกล้เคียงกับนายสุชาติ และในระยะหลังมีบทบาทในพรรค พปชร.มาก ..ทุบกล่องดวงใจก็อารมณ์แบบตัดไม้ข่มนามว่า “กูไม่กลัวมึง”

เสียงโหวตรัฐมนตรีคนใกล้ชิดบิ๊กตู่ เผลอๆ น่าสนใจกว่าตัวนายกฯ อีก เพราะถึงขั้นคว่ำได้.