เมื่อวันที่ 8 ส.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นแต่อาการไม่รุนแรง รัฐบาลได้มุ่งมั่นจัดระบบการให้บริการทางการแพทย์ให้เพียงพอต่อความต้องการและเป็นไปอย่างมีคุณภาพ ที่ผ่านมาได้เสริมการให้บริการระบบ Telemedicine หรือพบแพทย์ออนไลน์ ซึ่งมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ประสานกับกรมบัญชีกลาง เพื่อให้ผู้ป่วยโควิดที่มีสิทธิรักษาพยาบาลสวัสดิการข้าราชการ ทั้งผู้ที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงและผู้ที่อยู่ในกลุ่ม 608 สามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลในระบบ Telemedicine ได้แล้ว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ จากเดิมที่ให้เฉพาะผู้ป่วยสิทธิบัตรทองเท่านั้น

ผู้ป่วยที่ต้องการเข้ารับบริการ Telemedicine จะต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น เมื่อลงทะเบียนก็จะได้พบแพทย์ผ่านออนไลน์ และรับยารักษาตามอาการ หากแพทย์มีความเห็นว่าอาการเข้าเกณฑ์ที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ หรือโมลนูพิราเวียร์ จะมีการจัดส่งยาให้ถึงที่บ้านโดยเป็นยาที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้พื้นที่การดูแลของแต่ละแอพพลิเคชั่นจะแตกต่างกัน ซึ่งแอพ Clicknic (คลิกนิก) จะรับดูแลทั้งผู้ป่วยโควิดกลุ่มอาการสีเขียวและผู้ป่วยโควิดที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 โดยให้บริการทั่วประเทศ ขณะที่แอพ MorDee (หมอดี) และแอพ Good Doctor (กู๊ด ดอกเตอร์) จะดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มอาการสีเขียว แต่ไม่รับกลุ่ม 608 และดูแลเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล 5 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร)

น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่ามากไปกว่านั้น ผู้ป่วยโควิด-19 สิทธิข้าราชการ สามารถรับยาโควิด-19 แบบเจอ-แจก-จบ จากร้านยาที่ร่วมโครงการกับ สปสช.ทั่วประเทศได้แล้ว ซึ่งก่อนหน้าได้เพิ่มการครอบคลุมสิทธิประกันสังคม จากที่เริ่มแรกครอบคลุมเฉพาะสิทธิบัตรทองเท่านั้น ซึ่งขั้นตอนการดำเนินการ คือ 1.ติดต่อร้านยาที่เข้าร่วมโครงการเพื่อส่งผลตรวจ ATK คู่กับบัตรประชาชนผ่านไลน์ของร้านยา 2.ร้านยาซักประวัติข้อมูลทั่วไป แนะนำและให้คำปรึกษาการใช้ยา 3.ญาติหรือคนอื่นมารับแทน ไม่มีการจัดส่งยาทางไปรษณีย์ ทั้งนี้ ผู้ป่วยโควิดทั้งสิทธิข้าราชการประกันสังคมและสิทธิบัตรทอง สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมโครงการกับ สปสช. ได้ที่ https://www.nhso.go.th/downloads/197

กระบวนการดูแลระบบ Telemedicine ที่รัฐบาลจัดให้ไม่ต่างจากการไปรับบริการที่โรงพยาบาล เพียงแต่ทุกอย่างทำผ่านออนไลน์ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยได้มาก ที่สำคัญลดการไปแออัดที่โรงพยาบาล ไม่เสี่ยงต่อกระจายเชื้อ

ทางด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มอบนโยบายในการดูแลรักษาและการนำผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทุกกลุ่ม เข้าถึงระบบการรักษา ยาและเวชภัณฑ์ให้ได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงโดยเร็วเป็นสำคัญ เพื่อช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิต ซึ่งในวันเดียวกันนี้ สปสช.ได้เริ่มให้บริการเชิงรุกโดยร่วมกับแอพพลิเคชั่น คลิกนิก (Clicknic)  จัดส่งยาโมลนูพิราเวียร์ ให้กลุ่มเสี่ยง 608 ทั่วประเทศที่ได้รับการวินิจฉัยและสั่งจ่ายโดยแพทย์ ผ่านระบบ Telemedicine เพื่อช่วยผู้ป่วยกลุ่มนี้ให้สามารถเข้าถึงการรักษาโดยเร็วก่อนอาการโรคจะรุนแรง ซึ่งจะมีแพทย์หมุนเวียนในระบบคอยให้บริการปรึกษา วินิจฉัย และกำกับการให้ยาแก่ผู้ป่วย โดยผู้ป่วยจะได้รับยาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ และจะเริ่มจัดส่งยาให้กับผู้ป่วยทั่วประเทศวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งจะได้รับยาวันถัดไป หลังจากที่พบหมอผ่านระบบ Telemedicine และได้รับการวินิจฉัยว่า ต้องได้รับยาโมลนูพิราเวียร์ นับเป็นการให้การรักษากลุ่มเสี่ยงก่อนภาวะโรคจะรุนแรง.