เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องฝ่ายค้านปม 8 ปี นายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมติ 5:4 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันนี้ ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.65 ว่าพูดแบบตรงไปตรงมา ความรู้สึกแรกก็น่าจะยินดีกับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่ง 8 ปีก็นาน เป็นช่วงเวลาที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ความโชคร้ายของเรื่องนี้คือ ตัวเลือกต่อไปที่จะมารักษาการและทำหน้าที่แทนน่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

“พูดตรงๆ ผมไม่คิดว่า พล.อ.ประวิตร จะสามารถทำหน้าที่ได้ดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เพราะทั้ง 2 คนมีบทบาทสำคัญในการทำให้ประเทศเป็นเช่นนี้ ดังนั้นประเทศไทยไม่ควรมีตัวเลือกแค่ พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร ใครดีกว่ากัน ประเทศเราไม่น่าจะหมดหวังเช่นนั้น สิ่งที่ผมคิดว่าต้องทำต่อไป ในระหว่างนี้แน่นอนว่าเป็นการหยุดปฏิบัติหน้าที่ ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ยังคงดำเนินการต่อ ไม่ได้นำไปสู่การเลือกตั้ง ผมคิดว่าสิ่งที่จะต้องช่วยกันส่งเสียงคือ การส่งเสียงว่าศาลรัฐธรรมนูญจะต้องมีคำวินิจฉัย ที่เด็ดขาดสุดท้ายออกมา”

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หากคำวินิจฉัยนั้นออกมา ในลักษณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ครบ 8 ปีแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือการที่ต้องมีการเลือกนายกฯ คนใหม่ในสภาผู้แทนราษฎร หากเราเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ สิ่งที่เราต้องดำเนินการต่อไปคือ ต้องฝากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะต้องมีการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การคืนอำนาจให้ประชาชนและมีการเลือกตั้ง ไม่ใช่ว่ามาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วจะอยู่ครบวาระ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่สังคมไทยต้องการ