จากกรณีโลกออนไลน์เผยแพร่คลิป พระสงฆ์ 3 รูป กำลังทะเลาะวิวาทกันอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างมีอาวุธในมือทั้งไม้ มีดและปืน ยืนด่าทอกันด้วยความไม่พอใจ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา ในพื้นที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาส วัดสวนแก้ว กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า อาตมาเห็นข่าวแล้วรู้สึกเป็นห่วง เพราะตั้งแต่เกิดมายอยู่ในจังหวัดนนทบุรีไม่เคยเห็นพระสงฆ์ที่กระทำต่อพระพุทธศาสนารุนแรงแบบนี้ การจะทำร้ายกัน พูดจาหยาบคายใส่กัน เหมือนสติแตกกันหมด โดยทางธรรมวินัยถือว่าเป็นพวกขยะ ทำให้ภาพพจน์ของพระศาสนาเสื่อมเสีย ควรรีบสึกอย่าอยู่ต่อให้เป็นเสนียดศาสนา

ทั้งนี้ อยากให้ชาวพุทธหรือประชาชนอย่าเข้าใจผิดเหมารวมว่าพระสงฆ์หรือนักบวชจะมีพฤติกรรมแบบนี้ทุกรูป โดยพฤติกรรมแบบนี้ขาดอยู่ 3 เรื่อง 1.ไม่อายกับการวิวาทอย่างน่าเกลียด 2.สติไม่มีไม่รู้สึกตัวว่าจะเสื่อมเสียต่อตนเองและศาสนา 3.ขาดหรือหมดความเป็นสมณะถึงได้กระทำกริยาด่ากัน เป็นพระอมวรนุชปล่อยพ่นออกมาอย่างน่าเกลียด ในกรณีนี้ต้องวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจสอบว่าเป็นปืนจริงหรือไหม หากพบว่าเป็นปืนจริงก็จับและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หากปล่อยไว้แบบนี้ผู้บริหารการปกครองคณะสงฆ์ก็จะเสื่อมเสียและหมดประสิทธิภาพกับการจัดการกับพระสงฆ์แบบนี้

พระพยอม กล่าวต่ออีกว่า ในกรณีที่พบบ้องกัญชาในห้องเณร ก็อยากจะฝากถึงเณรว่า บวชแล้วมาทำแบบนี้แล้วจะบวชมาทำไม แนะนำให้สึกและไปเสพให้มันเต็มที่แล้วจะรู้ว่ากัญชาให้คุณอะไร และพระศาสนาให้คุณ พระธรรมวินัยให้คุณ เณรไม่เสพคุณเลย แต่ไปเสพกัญชาที่ให้ความมึนเมาให้ทุกข์ให้โทษ ก็ยังจะไปเสพอยู่ ทำแบบนี้เขาเรียกว่า “เณรชาติโง่” และอยากจะฝากถึงเณรวัดอื่น ๆ เห็นข่าวนี้แล้วให้ใคร่ครวญกันหน่อย ใช้สติปัญญาก่อนคิดจะทำ ถ้าคิดไม่ได้ก็อย่าอยู่ให้ศาสนาเสื่อมเสีย ส่วนพระสงฆ์ทั้ง 2 รูป ในคลิปที่มีปากเสียงกันเรื่องน้ำจากบ้องกัญชากระเด็นใส่หน้า ให้มาดูชาวบ้านที่ประสบภัยจากน้ำท่วมและพระวัดอื่นที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม เขายังไม่มีเรื่องมีราว แต่ทำไมแค่น้ำจากกระบอกไม้ไผ่เพียงเล็กน้อย มาทำให้เป็นเรื่องบานปลายจนทำให้วัดเสียชื่อเสียงและศาสนามัวหมอง.