เมื่อวันที่ 2 ต.ค. นายชลธี ยังตรง ผวจ.อุบลราชธานี พร้อม นายเศรษฐพงศ์ ภิงคารวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 7 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมติดตาม ณ บริเวณสถานีวัดน้ำ M.7 (สะพานเสรีประชาธิปไตย) ซึ่งระดับน้ำอยู่ที่ 10.15 เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 35 เซนติเมตร สูงกว่าตลิ่ง 3.09 เมตร อยู่ในเกณฑ์วิกฤติ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีก 82 เซนติเมตร จะเท่ากับระดับน้ำสูงสุดของปี 2562 ที่น้ำท่วมอุบลฯ จมบาดาล
สำหรับสถานการณ์น้ำแม่น้ำมูลขณะนี้ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเฉลี่ยวันละ 30-40 เซนติเมตร ทำให้ถนนเชื่อมระหว่างสองอำเภอคือเมืองอุบลราชธานีกับวารินชำราบขณะนี้ถูกปิดไปแล้ว 1 จุด คือ สะพาน 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ นอกจากนี้ถนนขาเข้าจากฝั่ง อ.วารินชำราบ มา อ.เมืองอุบลฯ น้ำเอ่อขึ้นผิวการจราจรฝั่งขาเข้าสามารถวิ่งได้ 1 ช่องทาง ขาออก 2 ช่องทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วารินชำราบ ได้ประกาศประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนผู้ใช้ถนนและญาติพี่น้องที่ต้องการทำธุระให้เปลี่ยนเส้นทาง เพื่อหลบเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด ส่วนถนนเลี่ยงเมืองขาเข้าตัวเมืองอุบลฯ บริเวณบ้านทัพไทยถึงเชียงกง ต.แจระแม ระดับน้ำเริ่มไหลท่วมถนนสูงประมาณ 30 เซนติเมตร (ซม.) และที่ปิดการจราจรถนนสาย 226 รถไม่สามารถผ่านไป-มาได้บริเวณถนนช่วง ห้วยขะยูง อ.วารินชำราบ-อ.กันทรารมย์ หลักกิโลเมตรที่ 313-314 น้ำท่วมถนนสูง 3 เมตร และที่บ้านพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เดชอุดม น้ำจากลำโดมใหญ่ได้เอ่อล้นท่วม เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมครอบครัวต้องเร่งช่วยกันเก็บสิ่งของออกอย่างทุลักทุเล
ล่าสุด ชาวบ้านได้ความเดือดร้อนและเสียหาย 17 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,714 ครัวเรือน อพยพ 61 ชุมชน 2,336 ครัวเรือน วัดและสำนักสงฆ์ 25 แห่ง จังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยเพิ่มเป็น 12 อำเภอ พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 129,637 ไร่ พื้นที่ประมงได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.น้ำยืน อ.น้ำขุ่นและ อ.ม่วงสามสิบ ความเสียหาย 521.25 ไร่
ด้านการให้ความช่วยเหลือศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยจังหวัดอุบลฯ ระดมความช่วยเหลือจากส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน สาธารณสุขและฝ่ายปกครอง องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นภาคเอกชน มูลนิธิการกุศล พร้อมจิตอาสา ออกให้การช่วยเหลือประชาชนนำกำลังขนย้ายสิ่งของโดยตั้งเต็นท์พระราชทาน มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 20 เต็นท์ เต็นท์อาศัยชั่วคราว 650 หลัง รถสุขาเคลื่อนที่ 2 คัน ตู้สุขาเคลื่อนที่ 50 ตู้ ถังน้ำอุปโภคบริโภค 50 ถัง ถุงยังชีพ 2,945 ชุด ชุดยารักษาโรค 235 ชุด น้ำดื่ม 2,471 แพ็ก เรือ 38 ลำ กระสอบทรายแจกจ่ายประชาชน 35,500 ใบ.
