วันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 45/4 หมู่ 4 ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พบ นางศุภรา ช้างลำลี อายุ 60 ปี เจ้าของสวนทุเรียน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาแล้วนานกว่า 2 อาทิตย์ ทำให้ต้นทุเรียนและไม้ผลต่างๆที่ปลูกไว้ในสวนเสียหายทั้งหมดมูลค่านับล้านบาท ซ้ำยังไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือดูแลจากหน่วยงานใดๆ ทั้งที่ตนเองก็มีชื่ออยู่ในทะเบียนเกษตรกร อ.บางกรวย

นางศุภรา กล่าวว่า ในพื้นที่แถวๆนี้ มีสวนปลูกทุเรียนประมาณ 6-7 สวน แต่ละสวนก็โดนน้ำท่วมหมด เจ้าของสวนบางคนก็สามารถจัดการน้ำที่เอ่อท่วมเข้ามาในสวนของตนเองได้ บางสวนที่ไม่มีกำลังหรืออุปกรณ์ช่วยก็ต้องปล่อยให้จมน้ำต่อไปอย่างสวนของตน ก่อนหน้านี้เคยเอาเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง แต่ปริมาณน้ำค่อนข้างเยอะ เครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกไม่ทันก็จมอยู่ใต้น้ำเช่นเดียวกัน เลยต้องปล่อยให้สวนของตนจมต่อไป ส่วนพื้นที่ด้านหลังสวนก็ติดกับหมู่บ้านเวลาฝนตกลงมา น้ำก็จะถูกระบายเข้ามาที่สวนของตนเพราะที่ของตนอยู่ต่ำกว่า ส่วนด้านข้างเป็นคลองเล็กๆ ซึ่งเวลาสูบน้ำจะต้องสูบออกไปลงคลองนี้ แต่อีกฝั่งก็เป็นที่นาของเพื่อนบ้านและอยู่ต่ำกว่าระดับสวนของตน เคยเอาเครื่องสูบน้ำระบายน้ำออกไปทางคลอง แต่ตอนนี้น้ำในคลองเยอะ กลายเป็นว่าเขามองว่าเราเอาน้ำในที่ของเราไประบายลงในที่นาของเขาแทน เลยเลือกที่จะไม่มีปัญหาดีกว่า ปล่อยให้สวนของเราจมไป

“ตอนนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานลงมาดูแลหรือให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด ทั้งๆที่ตนเองเคยลงทะเบียนและมีชื่ออยู่ในบัญชีของเกษตรกร อ.บางกรวย ก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำยังไงหรือต้องไปติดต่อประสานงานที่ใคร ตอนนี้ก็หวังว่าระดับน้ำจะลดลง แต่ตนก็ไม่มีทุนจะไปซื้อต้นกล้าทุเรียนมาปลูกแล้ว คิดว่าถ้าหากจะมีหน่วยงานไหนจะช่วยเหลือก็อยากให้ช่วยหาพันธฺ์กล้าทุเรียนมาให้ตนก็จะดีมาก เพราะเงินที่มีอยู่ต้องใช้รักษาสามีที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต่อให้รอบนี้ต้นทุเรียนจะตายหมดแต่ก็พร้อมสู้ใหม่” นางศุภรา กล่าว

ด้านเจ้าของสวนทุเรียนอีกฝั่งหนึ่ง เล่าว่า สวนของตนก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและฝนตกเช่นกัน เมื่อวานเพิ่งจะสูบออกจนระดับน้ำเป็นปกติ แต่พอมาเมื่อคืนฝนตก ระดับน้ำก็สูงขึ้นจนท่วมสวนทั้งสวน กลางดึกตนจึงต้องรีบออกมาใช้เครื่องสูบน้ำระบายออกจากสวน จนถึงบ่ายๆ ของวันนี้ ระดับน้ำก็ยังสูงอยู่แต่ไม่น่าห่วงแล้ว ตอนนี้กลัวว่าต้นทุเรียนที่ตนปลูกจะยืนต้นตายซะก่อน เพราะลงทุนไปเยอะและยังไม่ได้กำไรจากการทำสวนในครั้งนี้เลย เพราะต้นทุเรียนตนเพิ่งจะปลูกได้แค่เพียง 3 ปี เท่านั้น ถ้าต้องจมทั้งหมดก็หมดเลย ไม่มีทุนเหลือไปซื้อต้นกล้าพันธุ์ทุเรียนแล้ว ยังไม่มีหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด เคยเข้าไปที่เทศบาลก็ให้มาแค่กระสอบทรายไม่กี่ใบเท่านั้น

ขณะที่ นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า สำหรับพื้นที่นํ้าท่วมอยู่ในนนทบุรี ตอนนี้ต้องบอกว่าน้ำที่ไหลเอ่อลงมาจากทางเหนือมีทั้งในเขตแนวกระสอบทรายและนอกเขตกระสอบทราย ส่วนบริเวณนอกแนวกระสอบทรายคือชุมชนบริเวณริมน้ำเกือบทั้งหมด ทางหน่วยงานท้องถิ่นก็พยายามป้องกันไม่ให้น้ำล้นเข้ามาในพื้นที่แล้ว ซึ่งก็ได้สั่งการไปทั้งทางหลวงชนบท แขวงทางหลวง และทางเทศบาลต่างๆ ให้ลงไปช่วยกันดูแลป้องกันไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้ามามากจนเกินไป แต่เมื่อวานน้ำทะเลหนุนด้วยทำให้ระดับน้ำสูงถึง 2.20 เมตร ส่งผลทำให้กระสอบทรายพังทลายหลายจุด

นายสุธี กล่าวต่อว่า ในเรื่องของการช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม เบื้องต้นทางหน่วยงานท้องถิ่นก็อยากให้พี่น้องประชาชนได้เดินทางสะดวก บางจุดที่มีน้ำท่วมสูงก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปสร้างสะพานไม้สำหรับสัญจรก่อน หรือบางจุดทีไม่สามารถสร้างสะพานไม้ได้ก็ได้ให้นำเรือพลาสติกเข้าไปในชุมชุนเพื่อใช้เดินทางเข้าออก ส่วนในเรื่องของถุงยังชีพตามที่ทางจังหวัดนนทบุรีได้มีประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยและเขตความช่วยเหลือใน 4 อำเภอ คือ เมือง ปากเกร็ด บางใหญ่ และบางบัวทอง เพื่อที่จะใช้งบประมาณตามกฎระเบียบของกระทรวงการคลังมาช่วยพี่น้องประชาชน จากข้อมูลเบื้องต้นมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 27,101 ครัวเรือน ในส่วนของพื้นที่ที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจของจังหวัดนนทบุรีมีซึ่งมีความกังวลสูง เพราะนอกจากพื้นที่เศรษฐกิจแล้ว ถนนก็สำคัญเช่นกันเพราะเราต้องป้องกันในส่วนของถนนด้วย

แต่อย่างไรก็ตามที่คุยกันพื้นที่เศรษฐกิจในส่วนของ อ.เมือง ทางตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ก็สามารถที่จะดูแลควบคุมได้ แต่ทางพื้นที่ฝั่งตะวันตกเนื่องจากพนังกั้นน้ำบางแห่งยังเป็นลักษณะฟันหล่ออยู่ ท่าน้ำยกระดับสูงขึ้นก็อาจจะล้นข้ามออกไปเข้าสู่พื้นที่ได้ ซึ่งทางจังหวัดนนทบุรีได้เคยเสนอไปว่า อย่าปล่อยน้ำเกินกว่า 3,100 ลบ.ม.ต่อวินาที เพราะหากปล่อยเกินมาทางเราก็ไม่รู้ว่าน้ำทะเลจะหนุนสูงเท่าไร ฝนจะตกเพิ่มอีกเท่าไร แต่ยังไงทางหน่วยงานทุกหน่วยก็พร้อมรับมือ.