เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายสุขภาพอำเภอเทพา จ.สงขลา นำโดยนายวีรศักดิ์ เบญอะหลี สาธารณสุขอำเภอเทพา ออกรณรงค์ป้องกันโรคเมลิออยโดสิส หรือโรคไข้ดิน หลังพบผู้ป่วยด้วยโรคนี้ในอำเภอเทพา ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคมปีนี้แล้ว 7 ราย และเสียชีวิต 5 ราย ประกอบด้วย พื้นที่ ต.เกาะสะบ้า 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย ต.ท่าม่วง 1 ราย เสียชีวิต ต.เทพา 1 ราย เสียชีวิต ต.ลำไพล 1 ราย เสียชีวิต ต.ปากบาง 1 ราย เสียชีวิต และ ต.วังใหญ่ 1 ราย

โดยในวันนี้ทางเครือข่ายสุขภาพอำเภอเทพา ได้ปูพรมออกรณรงค์ครั้งใหญ่ เพื่อให้ประชาชนตื่นตัวและรู้วิธีการป้องกันจากการป่วยด้วยโรคไข้ดิน โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ทั้ง 6 ตำบล ที่พบผู้ป่วยด้วยโรคนี้เพื่อยับยั้งการระบาดโดยเร็วที่สุด แบบเน้นพบประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งที่ทำไร่ทำนาทำสวน และประชาชนที่อยู่ตามหมู่บ้าน เพื่อให้ความรู้และวิธีการป้องกันโรคนี้ นอกจากนี้ยังได้เก็บตัวอย่างดินและน้ำในพื้นที่ที่พบผู้ป่วย เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดว่า มีเชื้อของโรคเมลิออยโดสิส หรือโรคไข้ดินปนเปื้อนหรือไม่

สำหรับโรคเมลิออยโดสิส เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรีย ที่ระบาดในประเทศไทย ไม่มีอาการแสดงจำเพาะ ผู้ป่วยอาจมาด้วยอาการไข้สูงเพียงอย่างเดียว อาจมีไข้สูงช็อกจากการติดเชื้อในกระแสเลือดโดยไม่มีอาการจำเพาะที่อวัยวะใดๆ และเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว ระยะฟักตัวของโรคตั้งแต่ 2 วัน ถึงนานหลายปี

สาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei (เบอร์คโฮลแดเรียซูโดแมลีอาย) พบได้ทั่วไปในดินและน้ำในแหล่งระบาด พบได้บ่อยที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิธีการติดต่อเข้าสู่ร่างกายคนโดยผ่านทางผิวหนัง โดยไม่จำเป็นต้องมีรอยขีดข่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีการสัมผัสดินและน้ำเป็นเวลานานๆ หรือการดื่มน้ำที่ไม่ได้ผ่านการต้มสุก ผ่านทางการหายใจโดยการหายใจฝุ่นดินเข้าไปในปอด

วิธีการป้องกันเช่นหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำโดยตรงหากต้องสัมผัสดินหรือน้ำ เช่นทางการเกษตร จับปลา ลุยน้ำ หรือลุยโคลน ควรสวมรองเท้าบูท ถุงมือยาง กางเกงขายาวเสื้อแขนยาว สวมหน้ากากอนามัยหรือ ชุดลุยน้ำ หรือหลังเสร็จจากการลุยน้ำก็ให้ทำความสะอาดร่างการฟอกสบู่ทันที กรณีมีบาดแผลที่ผิวหนัง ควรรีบทาแผลด้วยยาฆ่าเชื้อ ไม่ใส่ดินหรือสมุนไพรใดๆ ลงบนแผล และหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ำจนกว่าแผลจะหายสนิท และควรดื่มน้ำต้มสุก