เมื่อวันที่ 20 ต.ค. สาวใหญ่ร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวถูกหนุ่มหลอกตีสนิทอยู่กินฉันผัวเมีย แกล้งมอบสร้อยคอทองคำ 10 บาท หมั้นหมายไว้ก่อนแต่งอยู่กินด้วยกัน 2 เดือน ออกอุบายขอสร้อยคอใส่หนีกลับบ้าน แถมยอมรับสารภาพว่า มีเมียแล้ว ขอให้เลิกคบกัน และอย่าแจ้งความเอาผิดตนเองเลย ขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป

โดยเจ๊ดา (นามสมมุติ) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้รู้จักและคบหากับนายเอ (นามสมมุติ) หนุ่มรับเหมาทำแท็งก์น้ำประปา ได้มารับเหมาอยู่ในพื้นที่ และได้รู้จักกันกระทั่งไปมาหาสู่กับเจ๊ดา สุดท้ายฝ่ายชายได้บอกรักและขออยู่ด้วยโดยนำสร้อยคอทองคำ 10 บาท มาหมั้นหมาย มีญาติฝ่ายหญิงรับรู้ และอยู่กินฉันผัวเมีย ระหว่างนี้ขอเก็บเงินไว้แต่งงานกัน ฝ่ายชายถามตนเองว่า จะเรียกค่าสินสอดทองหมั้นเท่าไหร่ จึงบอกว่าสินสอดทองหมั้นขอเรียกทองหนัก 4 บาท ค่าสินสอดแสนห้า ฝ่ายชายขอต่อรองบอกว่าขอสินสอด (หนึ่งแสนบาท) ฝ่ายชายบอกว่าจะมาสู่ขอแต่งงานหลังออกพรรษา

ก่อนออกพรรษา เจ๊ดาได้จัดงานแต่งลูกชายนายเอ ขอสร้อยทองคำ 10 บาท ใส่งานแต่งลูกชายก่อน เสร็จงานจะคืนให้ เจ๊ดาก็ไม่ได้เอะใจอะไร หลังจากเสร็จงานแต่งลูกชาย นายเอบอกว่า ขอใส่สร้อยคอทองคำต่ออีกหน่อยจะไปทำธุระ เจ๊ดาจึงให้สร้อยเส้นนั้นใส่ต่ออีก นายเอได้หายออกจากบ้านแล้วไม่ติดต่อกลับมา เจ๊ดาได้ติดต่อไปหานายเอแต่ไม่รับสาย และใช้เบอร์โทรศัพท์หมายเลขอื่นโทรฯไปหานายเอรับสาย เจ๊ดาสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าทำไม มีอะไร ติดต่อไม่ได้ มีอะไรปิดบังหรือเปล่า นายเอ บอกว่า ขอโทษ ตนเองมีเมียแล้ว ต้องขอโทษด้วยกับสิ่งที่ทำลงไป อย่าแจ้งความเอาผิดตนเองเลย และอย่าสาปแช่งตนด้วย ขอจบกันแต่เพียงแค่นี้

เจ๊ดาต่อว่านายเอ ว่าที่ผ่านมาทำไมถึงหลอกว่าจะแต่งงานจนกระทั่งยอมได้เสียฉันผัวเมียอยู่ที่บ้านของตนเอง 2 เดือน และบอกทุกคนในหมู่บ้านว่าจะแต่งงานด้วย ตนเองรู้จักคนมากมาย จะมาพูดขอให้จบกันแค่นี้อย่าเอาเรื่อง สิ่งที่ยอมเป็นเมียในนามก่อนแต่งไปแล้วจะให้จบกันง่ายๆ คงไม่ได้ จะไปแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายเอ ที่มาหลอก จนตนเองหลงตายใจและยอมเสียตัวนานถึง 2 เดือน.