เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยขยุง ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้เดินทางไปติดตาม และให้กำลังใจแก่คณะเจ้าหน้าที่ทหาร ปภ.ศรีสะเกษ สาขากันทรลักษ์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อส.อ.กันทรลักษ์ ผู้นำหมู่บ้าน และชาวบ้านทุ่งยาว ที่กำลังพากันติดตามหาตัว นายจ่อย โคตะกา อายุ 48 ปี ชาวบ้านทุ่งยาว หมู่ 4 ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งได้ขึ้นเขาเข้าป่าไปหาเก็บเห็ดที่บริเวณน้ำตกวังใหญ่ อ.กันทรลักษ์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา และได้พลัดหลงป่าหายไปนาน 3 วันแล้ว โดยได้พบกับ นางวิไล โคตะกา อายุ 52 ปี ภรรยาของนายจ่อย กับญาติพี่น้องที่พากันจับกลุ่มรอคอยฟังข่าวการค้นหาตัวนายจ่อย ด้วยอาการวิตกกังวล มีคณะเจ้าหน้าที่พากันมารวมกัน เพื่อวางแผนในการที่จะออกลุยป่าตามหาตัวนายจ่อย ต่อไปในช่วงเช้าวันนี้

นางวิไล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 65 ตนกับสามีคือ นายจ่อย ได้พากันออกมาหาขุดมันที่บริเวณใกล้กับน้ำตกวังใหญ่ พอขุดมันเสร็จแล้ว นายจ่อยบอกกับตนว่า ให้รออยู่ตรงนี้จะเข้าป่าไปหาเก็บเห็ดมาฝากลูกเขย จากนั้น นายจ่อยได้เดินเข้าป่าไป ตนรออยู่จนค่ำไม่เห็นนายจ่อยกลับออกมาจากป่า จึงคาดว่า นายจ่อยคงจะหลงป่า จึงได้เดินทางกลับมาบ้านและแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้รายงานให้ นายอำเภอกันทรลักษ์ทราบ ต่อมาเช้าวันที่ 17 พ.ย. 65 นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้ประสานงานกับหน่วยทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมกับ อส.อ.กันทรลักษ์ และผู้นำหมู่บ้าน ชาวบ้านร่วมกันเดินปูพรมออกค้นหานายจ่อย จนกระทั่งค่ำแต่ว่าไม่พบ จึงได้ยกเลิกการค้นหา และได้กลับมาวางแผนเพื่อที่จะออกค้นหาต่อในวันรุ่งขึ้น

ขณะที่นายอำเภอกันทรลักษ์ ได้มาเยี่ยมให้กำลังใจกับคณะเจ้าหน้าที่ที่ออกปฏิบัติการค้นหานายจ่อย และให้กำลังใจนางวิไล อยู่นั้น ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามารายงานให้นายอำเภอกันทรลักษ์ ทราบว่า ได้พบตัวนายจ่อย ที่กำลังตามหาตัวแล้ว โดยนายจ่อยอยู่ที่บ้านของนางลอน ถือผล อายุ 47 ปี ที่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 7 บ้านก่อ ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นบ้านของน้องสาวนางวิไล ภรรยาของนายจ่อย ทำให้นางวิไลกับญาติ​ พากันดีใจมากที่ทราบข่าวว่า นายจ่อยปลอดภัยแล้ว

ทั้งนี้นายอำเภอกันทรลักษ์ และคณะเจ้าหน้าที่ จึงได้พากันเดินทางไปที่บ้านก่อ และได้ให้เจ้าหน้าที่พยาบาล รพ.สต.ละลาย ให้มาตรวจสุขภาพของนายจ่อย เพื่อความปลอดภัยด้วย เมื่อไปถึงพบว่า นายจ่อย นั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน ยังคงสวมเสื้อผ้าชุดเดิม พบว่า ตามแขนทั้ง 2 ข้างของนายจ่อย มีรอยยุงกัดและรอยใบไม้ขีดข่วนตามแขน เจ้าหน้าที่ รพ.สต.ละลาย ได้ทำการตรวจร่างกายของนายจ่อย พบว่า สภาพร่างกายปกติดีทุกอย่าง ไม่มีอาการเจ็บป่วยอ่อนเพลียแต่อย่างใด

นายจ่อย เล่าว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 65 ตนเดินเข้าไปในป่าเพื่อที่จะหาเก็บเห็ดขอนมาเป็นของฝากให้ลูกเขยชาว จ.อุบลราชธานี ที่มาเยี่ยมตนและครอบครัว จะได้นำเอาเห็ดไปเป็นอาหาร ตนเดินเข้าป่าลึกเข้าไปเรื่อยๆ และเก็บเห็ดได้จำนวนมากจนเต็มกระสอบปุ๋ย แต่ว่าพอใกล้จะมืดค่ำไม่สามารถที่จะหาทางกลับออกมาจากป่าได้ จึงได้พักนอนในเพิงถ้ำ เก็บใบไม้ในป่ามากินเป็นอาหาร และดื่มน้ำจากลำธารประทังชีวิต พอรุ่งเช้าอีกวันก็เดินไปเรื่อยๆ เพื่อหาทางออกจากป่า จนค่ำมืดก็พักนอนใต้ต้นไม้ กินใบไม้ประทังชีวิตอีก จนถึงรุ่งเช้าวันนี้ (18 พ.ย. 65) ตนก็ได้เดินหาทางออกจากป่าไปเรื่อยๆ พอช่วงบ่ายใกล้ค่ำได้พบว่า มีถนนในป่า ตนจึงได้เดินไปตามถนนและได้พบกับชาวบ้านสามเส้า ต.ละลาย ที่เข้ามาทำไร่ในป่า ตนจึงเข้าไปขอความช่วยเหลือขอนั่ง จยย. ออกมาด้วย และขอให้ชาวบ้านสามเส้าผู้ใจดี มาส่งตนที่บ้านก่อ ซึ่งเป็นบ้านน้องสาวภรรยาของตน ระหว่างที่ตนหลงป่าอยู่นั้น ตนไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด กลัวแต่ว่าจะไม่ได้กลับบ้านเท่านั้น 

นายสุกิจ กล่าวว่า ขอฝากเตือนประชาชนชาว อ.กันทรลักษ์ ทุกคนว่า หากจะเข้าไปหาของป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ควรที่จะตรวจสอบว่า เป็นป่าที่ตนเองคุ้นเคยหรือไม่ หากว่าไม่เคยชินกับป่าที่จะเข้าไป ก็ไม่ควรที่จะเข้าไปหาของป่า ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง