วานนี้ (8 ธ.ค. 2565) ทีมตำรวจเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย แถลงข่าวเรื่องข้อมูลใหม่ของคดีฆาตกรรมปริศนาสุดโหดที่ค้างคามาเป็นเวลานานถึง 65 ปี และนับว่านานที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของเมืองฟิลาเดลเฟีย 

เหยื่อของคดีนี้ซึ่งเป็นเพียงเด็กชายอายุเพียง 4 ขวบ ได้รับการตั้งฉายาให้ว่า “เด็กชายในกล่องกระดาษ” (Boy in the box) เนื่องจากศพของหนูน้อยถูกพบอยู่ในกล่องกระดาษซึ่งถูกทิ้งไว้ในป่า โดยมีผ้าห่มคลุมร่างไว้ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1957 ในเขตฟ็อกซ์เชส เมืองฟิลาเดลเฟีย

จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่าเด็กชายเสียชีวิตจากการโดนทุบตีอย่างโหดเหี้ยม ทีมสืบสวนต้องรอมากกว่าครึ่งศตวรรษ กว่าจะมีเทคโนโลยีช่วยให้สืบหาตัวตนของเด็กชายได้สำเร็จ ซึ่งตำรวจประกาศในงานแถลงข่าวว่า ชื่อของเด็กชายคือ โจเซฟ ออกัสตัส ซาเรลลิ ปัจจุบันพ่อแม่ของหนูน้อยเสียชีวิตไปหมดแล้ว แต่จากการสืบร่องรอยของหนูน้อยซาเรลลิ พบว่าเด็กชายเคยอาศัยอยู่ในเขตตะวันตกของฟิลาเดลเฟีย ใกล้กับตลาดแถวถนนสายที่ 61 

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปิดคดีเพราะยังไม่สามารถระบุตัวฆาตกรของคดีได้อย่างแน่ชัด แม้ว่าจะมีเบาะแสอยู่บ้างก็ตาม ซึ่งทีมตำรวจกล่าวว่า การสืบหาตัวฆาตกรนั้นเป็นเรื่องทำได้ยากลำบากมาก

ร.ต.อ.เจสัน สมิธ จากทีมตำรวจฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า ถ้าหากเมื่อ 20 ปีก่อน มีเทคโนโลยีแบบที่ใช้กันอยู่ในตอนนี้ สถานการณ์อาจจะเปลี่ยนแปลงไป เพราะเมื่อตำรวจสามารถระบุตัวผู้ตายได้ ก็จะมีร่องรอยให้สืบต่อจากสมาชิกของครอบครัว ซึ่งพอเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้ สมาชิกครอบครัวของเด็กชายที่มีอายุมากที่จะจดจำข้อมูลเกี่ยวกับหนูน้อยซาเรลลิหรือเหตุการณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ก็อาจจะเสียชีวิตไปหมดแล้ว

ทีมตำรวจระบุรายละเอียดของเด็กชายซาเรลลิไม่มากนัก โดยบอกเพียงว่าเขาเกิดเมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1953 และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดของครอบครัวของผู้ตายรวมถึงปฏิกิริยาของสมาชิกครอบครัว เมื่อได้รับการแจ้งข้อมูลจากตำรวจ

แม้ตำรวจจะยังไม่สามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้ว่าใครคือฆาตกร แต่ก็คาดถึงตัวบุคคลที่น่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยเอาไว้แล้ว โดยที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากคดียังคงมีการสืบสวนต่อเนื่อง และการเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ก็มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนที่อาจมีข้อมูลเกี่ยวกับเด็กชายผู้ตกเป็นเหยื่อ ช่วยแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะประชาชนในกลุ่มอายุ 70-80 ปีซึ่งน่าจะพอจดจำเหตุการณ์หรือรู้ข้อมูลของเด็กชายได้

ภาพจำลองใบหน้าของเด็กชายซาเรลลิ

เครื่องมือสำคัญที่ช่วยไขปริศนาบางส่วนของหนึ่งในคดีฆาตกรรมที่ปิดไม่ลงที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของสหรัฐคดีนี้คือเทคโนโลยีดีเอ็นเอยุคใหม่และความช่วยเหลือจากทีมนักสืบอาสาสมัครท้องถิ่นที่ช่วยกันคัดกรองกลุ่มคนที่น่าจะเป็นญาติและครอบครัวของผู้ตาย 

คอลลีน ฟิตช์แพทริก หนึ่งในสมาชิกของทีมนักสืบสมัครเล่นเหล่านี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนิติพันธุกรรม และเป็นผู้ทำงานอย่างยากลำบากเพื่อประกอบดีเอ็นเอที่อยู่ในสภาพที่แย่มากของเด็กชายให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พอจะรับการทดสอบเพื่อหาข้อมูลพันธุกรรมได้ ซึ่งเธอต้องใช้เวลานานถึง 2 ปีครึ่ง

การวิเคราะห์ของ ฟิตซ์แพทริก ให้ข้อมูลพันธุกรรมของเด็กชายซึ่งช่วยให้ทีมสืบสวนมีเบาะแสในการตามตัวญาติของผู้ตายจากฐานข้อมูลพันธุกรรมสาธารณะ ในที่สุดตำรวจก็สามารถหาตัวครอบครัวของซาเรลลิได้ รวมถึงใบสูติบัตรของเขาด้วย โดยอาศัยการเทียบเคียงข้อมูลพันธุกรรมที่เหมือนกันระหว่างบุคคลเป็นตัวเชื่อมโยง

หลังจากมีการพบศพเมื่อ 65 ปีก่อน ร่างของซาเรลลิได้รับการฝังไว้ที่สุสานไอวีฮิลล์ โดยมีป้ายสลักเหนือหลุมศพว่า “เด็กชายผู้ไม่มีใครรู้จักแห่งอเมริกา” 

แต่ในวันนี้ หนูน้อยผู้เคยตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมโหดมีทั้งชื่อ-นามสกุลและครอบครัว รวมทั้งไม่ได้เป็นเพียง “เด็กชายในกล่องกระดาษ” อีกต่อไป 

แหล่งข่าว : nbcnews.com

เครดิตภาพ : National Center for Missing & Exploited Children