เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ร.ต.อ.นิติพันธ์ สุภะดีรอง สวป.สภ.ห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ 191 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ว่า นายมงคล ดอนขัน ผู้ใหญ่บ้านวังทอง หมู่ 14 ต.หนองไฮ อ.เมืองอุดรธานี แจ้งขอกำลังสนับสนุนค้นหา เด็กหญิงอายุ 2 ขวบ 5 เดือน หายจากบ้านเลขที่ 111/1 หมู่ 14 บ้านวังทอง ต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี  พ่อแม่และญาติตามหา 3 ชั่วโมงแล้วแต่ไม่พบ จึงขอกำลังสนับสนุนด้วย จึงนำกำลัง และประสาน ด.ต.เจริญจันทร์รักษ์ ผบ.หมู่ จร.สภ.เมืองอุดรธานี ปฎิบัติหน้าที่หน่วยเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลือผู้ประสบเหตุบนท้องถนน  เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.หนองไฮ  รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง  ไม่มีฝาบ้านใช้สังกะสีกั้นห้องนอน อยู่ในสวนยางพารา หน้าบ้านอยู่ห่างจากถนนประมาณ 50 เมตรหลังบ้านเป็นไร่มันสำปะหลัง และป่ารกทึบ มีชาวบ้านประมาณ 20 คน มาช่วยตามหาเด็กหายโดยนายวิฑูรย์  อายุ 37 ปี และน.ส.บุญจิรา  อายุ 22 ปี พ่อและแม่ น้องมะลิ  อายุ 2 ปี 5 เดือน ที่หายออกจากบ้านโดยทั้งสองมีสีหน้าเป็นกังวล อย่างเห็นได้ชัด

นายวิฑูรย์ เล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้างกรีดยางและปลูกมันสำปะหลัง  มีน้องมะลิเป็นลูกคนเดียว และเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยเพศเมียสีขาวชื่อ “เหี่ยน” ไว้เป็นเพื่อน ก่อนเกิดเหตุ  ตนออกไปรับจ้างปลูกมันสำประหลัง  ให้น้องมะลิอยู่บ้านกับแม่ต่อมามีเพื่อนบ้านมาบอกตนว่า น้องมะลิหายจากบ้าน ไม่รู้ว่าหายไปไหนชาวบ้านออกติดตามหา แต่ยังไม่พบตัว ตนจึงรีบกลับมาบ้านทันที รู้สึกห่วงน้องมะลิมาก เกรงว่าน้องมะลิจะเดินไปตกน้ำตกท่า หรือหลงป่า เพราะตนมีลูกคนเดียว 

ส่วนน.ส.บุญจิรา แม่น้องมะลิ เล่าว่า ตนอยู่บ้านกับน้องมะลิสองคน สายวันนี้มียายเดินมาเก็บฟืนน้องมะลิเห็นจึงอยากลงไปเก็บฟืนกับยาย แต่ตนไม่ให้ลงไปหลังยายเก็บฟืนเสร็จได้เดินมาเล่นกับน้องมะลิ  ไม่นานยายก็กลับไปตนก็อุ้มน้องมะลิไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นพาขึ้นบนบ้านไปกินนม หลังกินนมเสร็จน้องมะลิเดินลงมาเล่นกับสุนัข ส่วนตนเล่นโทรศัพท์อยู่บนบ้าน ไม่รู้ว่าเล่นโทรศัพท์นานแค่ไหนพอมองหาลูกก็ไม่พบแล้ว หลังจากเรียกหาน้องมะลิรอบบ้านไม่เห็นตนก็ไปบอกญาติและผู้ใหญ่บ้าน ระดมชาวบ้านตามหา ประมาณ 3 ชั่วโมงก็ไม่พบ ชาวบ้านและตนเอง พร้อมสามีได้จุดธูปบอกกล่าวขอให้เจ้าที่เปิดทางให้พบน้องมะลิ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสากู้ภัย จิตอาสา และชาวบ้านได้ระดมค้นหาน้องมะลิไปทางหลังบ้าน ซึ่งเป็นไร่มันสำปะหลังและป่าห่างจากภูพานน้อยประมาณ 3 กิโลเมตร ส่วนตนเองได้ซ้อนจยย.เพื่อนบ้านตามหาลูกไปทางหลังบ้าน ซึ่งเป็นถนนลูกรังสองข้างทางเป็นไร่มันสำปะหลัง และป่ายูคาลิปตัส และป่ารกทึบสลับกัน ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร จึงจอดรถดูรอยเท้าเด็ก

ต่อมาได้ยินเสียงเด็กเรียก “แม่” ออกมาจากป่าจึงดับเครื่องจยย.ฟังเสียง และตะโกนเรียกชื่อน้องมะลิ 3 ครั้งก็ได้ยินเสียงเรียกตอบกลับมาว่า “แม่”จึงรีบเดินเข้าไปในป่ายูคาลิปตั สตามเสียงเรียกประมาณ 10 เมตรก็ไปพบน้องมะลินั่งพับเพียบอยู่ใต้พุ่มไม้ สีหน้าตกใจ และอิดโรย พอเห็นหน้าตนลูกสาวได้ร้องไห้โฮ จึงอุ้มน้องมะลิออกมาจากป่า จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพอบต.หนองไฮ นำตัวน้องมะลิไปตรวจร่างกายที่ รพ.สต. รวมเวลาที่น้องมะลิเดินหลงป่าประมาณ 4 ชม.ซึ่งลูกสาวไม่ได้บาดเจ็บอะไร รู้สึกดีใจมากและโล่งใจ ซึ่งต่อไปนี้จะดูแลลูกอย่างดีไม่ให้คลาดสายตา จะพยายามไม่เล่นโทรศัพท์ 

น.ส.รัชนี พันนาดอน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่าบ้านน้องมะลิตั้งอยู่โดดเดี่ยวห่างจากหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร  ทำให้เด็กไม่มีเพื่อนเล่นนอกจากเล่นสุนัข  น้องมะลิเล่นกับสุนัข  แม่เล่นโทรศัพท์อยุ่บนบ้านไม่ได้มองลูกไม่รู้ว่านานแค่ไหน พอรู้ตัวอีกทีพบว่า น้องมะลิหายไป จึงมาแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ก่อนออกตามหา ก็มาพบรอยเท้าเด็กบนทางดิน สองข้างเป็นไร่มันสำประหลังและป่ารกทึบห่างจากบ้าน 2 กิโลเมตร ก็ได้ยินเสียงเรียก “แม่” จากในป่า จึงเข้าไปจนพบน้องมะลินั่งอยู่ในป่าที่หาไม่พบ ซึ่งเชื่อว่าเพราะผีบังตาแต่พอจุดธูปบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือก็ทำให้พบเด็ก  ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้องมะลิเดินเข้าป่า เพราะเดินตามสุนัขมาจึงทำให้หลงเข้าไปในป่า แต่โชคดีที่พบน้องมะลิก่อนมืดค่ำ เพราะว่ากลางคืนจะมืดและอากาศหนาวมาก เด็กคงกลัวและทนหนาวไม่ได้