จากกรณี น้องวีน อายุ 18 ปี ชาว จ.พัทลุง นักเรียนชั้น ม.6 สอบคัดเลือกเป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่น่าจะมีปัญหาและอุปสรรคในการศึกษาต่อ เนื่องจากทางครอบครัว ผู้เป็นมารดา เป็นสาวม่าย มีฐานะยากจน ต่อมาสื่อต่างๆ ในจังหวัดพัทลุง ได้นำเสนอข่าวดังกล่าวไปยังสาธารณชนในการขอสนับสนุนเงินทุนการศึกษาแก่น้องวีน และมีผู้มีเมตตาจิตทั้งในและต่างจังหวัด ได้โอนเงินผ่านบัญชีเข้ามาช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก จนทางครอบครัวของน้องวีนได้ปิดบัญชีการรับบริจาคแล้ว อย่างไรก็ตาม ในโลกออนไลน์เกิดกระแสจับผิด เนื่องจากน้องใช้โทรศัพท์และนาฬิกาหรูหรา ราวกับจนทิพย์นั้น

อ้าวยังไง! จับโป๊ะ ‘น้องวีน’ สอบติดหมอฐานะยากจน เปิดรับบริจาคแต่ใช้ไอโฟน-แอปเปิ้ลวอช

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ม.ค. นายพิเชษ (สงวนนามสกุล) ญาติผู้ใหญ่ของครอบครัวน้องวีน พร้อม อดีต ผอ.โรงเรียนปัญญาวุธ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้เดินทางมาพบสื่อมวลชน จ.พัทลุง เพื่อให้รายละเอียดเรื่องที่ดังกล่าว โดยนายพิเชษ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากญาติๆ ให้เข้าไปดูแลครอบครัวดังกล่าวดูแลครอบครัวดังกล่าว ก็พบว่าครอบครัวดังกล่าวเป็นครอบครัวที่เปราะบาง เป็นครอบครัวที่ยากจนจริงมีรายได้จากการกรีดยางจ้าง-รับซื้อเศษยางประมาณ 300-400 บาท บางวันเงินจะซื้อข้าวสารให้ลูกทั้ง 2 คน ก็แทบไม่มี เนื่องมีฝนตกหนักไม่ได้ออกไปกรีดยาง จึงนำเรื่องมาปรึกษากับญาติๆ และเพื่อนๆ ว่า จะช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวอย่างไรบ้าง

ต่อมาก็ได้รับการช่วยเหลือเงินในการไปซื้อข้าวสาร น้ำมันพืช เป็นต้น เพื่อช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว และได้นำเรื่องนี้ขึ้นเฟซบุ๊กของตน เพื่อระดมทุนให้เด็กได้เรียนจบ ม.6 สำหรับเรื่องที่ครอบครัวนี้เครียดหนักก็คือ เมื่อลูกสอบติดแพทย์ จะเอาเงินที่ไหนไปศึกษาต่อ ซึ่งทั้ง 2 คน ต่างก็กอดคอร้องไห้มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับตนนั้น ต้องการให้น้องวีนเรียนจบ ม.6 ไปก่อน ส่วนการศึกษาต่อคณะแพทย์ ยังมีเวลาที่จะร่วมกันคิดแก้ไขปัญหาดังกล่าว พร้อมกันนั้น ก็ได้ปรึกษากับผู้มีองค์ความรู้ในการแก้ปัญหาเปราะบางในการแก้ปัญหาสภาพจิตใจของครอบครัวดังกล่าวด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สังคมดราม่าว่า ครอบครัวนี้ไม่จนจริง ซื้อโทรศัพท์เครื่องแพงๆ ให้น้องวีนนั้น นายพิเชษ กล่าวว่า น้องวีนไม่ได้เรียนพิเศษจากโรงเรียนจากสำนักติวเตอร์ มีการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมจากออนไลน์ เครื่องมือทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อสอบศึกษาต่อคณะแพทย์ ตามความมุ่งมั่นและความฝันของเด็กจึงมีความจำเป็นยิ่ง ถึงแม่จะไม่มีเงิน ก็ต้องหายืมเงินเขามาโดยมีการผ่อนเป็นงวดๆ เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์การเรียนเพื่ออนาคตของลูก การที่สังคมกล่าวโจมตีครอบครัวนี้ที่เปราะบางนั้น เพราะสังคมไม่รู้ว่าชะตาชีวิตของครอบครัวนี้เป็นอย่างไร ก็ต้องขอขอบคุณโซเซียลฯ ที่ได้ทำให้มีผู้มีเมตตาจิต ส่งเงินมาช่วยเหลือครอบครัวน้องวีนในครั้งนี้ ส่วนคนที่กล่าวโจมตีน้องวีน เขาคงไม่รู้ว่าความลึกตื้นหนาบางของน้องวีนมันคืออะไร และคงไม่รู้ว่าครอบครัวในวันที่ไม่มีจะกินมันเจ็บปวดขนาดไหน และน้องวีนคือต้นกล้าทางการแพทย์ ตนจึงคิดเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ว่า ครอบครัวของน้องนั้นมีความทุกข์บนความโชคดีที่พี่น้องประชาชนได้รับการแบ่งบันจิตศรัทธามาให้

ด้าน อดีต ผอ.โรงเรียนปัญญาวุธ ระบุว่า ได้มีการพูดคุยกันก่อนในก่อนหน้านี้ ที่เงินจากผู้มีจิตศรัทธาจะโอนเงินมาช่วยเหลือ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูแลเงินบริจาคของน้องวีน ประกอบด้วย นายกเทศบาล ผอ.โรงเรียนปัญญาวุธ ตังแทนครู ตัวแทนของครอบครัว โดยตนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องดังกล่าว โดยทุกฝ่ายก็รับปากที่จะดำเนินการกันแล้ว ส่วนเงินยอดบริจาคนั้น ในขณะนี้มีเงินที่เข้ามาทางระบบบัญชีประมาณ 8 แสนบาทเศษ ส่วนทางอื่นๆ ตนยังไม่ทราบตัวเลขที่แน่นอน ซึ่งทุกๆ ฝ่ายตื่นตกใจกับยอดเงินที่มีผู้จิตศรัทธาโอนเข้ามาช่วยเหลือ และได้ปรึกษากับนายพิเชษ ในการปิดบัญชีดังกล่าว เพราะเงินจำนวนดังกล่าว สามารถดูแล เยียวยาครอบครัวได้แล้ว.