สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ว่า สื่อเกี่ยวกับเทคโนโลยีหลายแห่งในฝั่งตะวันตกรายงานไปในทางเดียวกันว่า บริษัทไมโครซอฟท์ หนึ่งในยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ระดับโลกจากสหรัฐ เตรียมเลิกจ้างพนักงานอีกประมาณ 5% หรือประมาณ 11,000 คน จากที่มีอยู่ทั้งหมดทั่วโลกประมาณ 220,000 คน จากจำนวนดังกล่าวราว 122,000 คน อยู่ในสหรัฐ


สำหรับสายงานที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับงานด้านวิศวกรรม และทรัพยากรบุคคล โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะถือว่า เกิดขึ้นเพียงสัปดาห์เกียว หลังนายสัตยา นาเดลลา ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า ระยะเวลา 2 ปีนับจากนี้ถือเป็น “ช่วงเวลาท้าทายของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี” และไมโครซอฟท์ “ยังไม่อาจเอาตัวรอดจากความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้” ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์ปลดพนักงานมากถึงสองรอบ


ทั้งนี้ นายแอนดี แจสซี ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของแอมะซอน ผู้ให้บริการด้านอี-คอมเมิร์ซ รายใหญ่ระดับโลกของสหรัฐ ประกาศเมื่อต้นเดือนนี้ เรื่องการทยอยเลิกจ้างพนักงานมากกว่า 18,000 คน โดยจะเริ่มมีการแจ้งไปยังผู้ที่ต้องออกจากงานก่อนกำหนด ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.นี้ ส่วนใหญ่จะเป็นบุคลากรในสายงานทรัพยากรบุคคล และอี-คอมเมิร์ซ


สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับการวิเคราะห์ว่า บ่งชี้ “ความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน” ภายในแอมะซอน แม้เมื่อเทียบกับสัดส่วนของพนักงานทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วโลกประมาณ 1.5 ล้านคน จะถือเป็นการเลิกจ้างบุคลากรประมาณ 1% เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของแอมะซอนให้ความเห็นว่า เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเติบโตของตลาดที่มีแนวโน้มชะลอตัว.

เครดิตภาพ : REUTERS