เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ห้องพิจารณาคดีที่ 5 ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้มีการนัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรศักดิ์ สีหาวัตร จำเลยฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จากเหตุการณ์ขับรถทัวร์คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ บริเวณสามแยกคณะเภสัชศาสตร์ ส่งผลให้ น.ส.อรุณนภา วัฒนพานิช หรือน้องอาย นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ส.ค. 65

โดยศาลไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในเขตอำนาจศาลหรือบันทึกภาพขณะอ่านคำพิพากษาใดๆ พร้อมกับจัดพื้นที่ให้กับสื่อมวลชนรออยู่ที่เรือนพักญาติขณะอ่านคำพิพากษาเท่านั้น โดยศาลได้อ่านคำพิพากษาประมาณ 1 ชม. ก่อนจะมีพิพากษาจำคุก 4 ปี แต่จำเลยรับสารภาพ ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี เห็นควรลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ให้เหตุผลว่า มหาวิทยาลัยควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่ใช่ถนนสาธารณะทั่วไป ทั้งนี้ ศาลสั่งให้สืบเสาะและพินิจ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติภูมิหลังทางสังคมของจำเลย สภาพความผิดและเหตุอื่น อันควรปราณีก่อนศาลมีคำพิพากษาด้วย

ด้านนางนิตยา รุ่งสถิต มารดาน้องอาย กล่าวว่า พอใจในคำพิพากษา โดยศาลเลือกที่จะใช้ดุลพินิจไม่ให้รอลงอาญา เพราะเห็นใจผู้สูญเสีย และมองว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นควรให้ความช่วยเหลือมากกว่านี้ และวันนี้ตนจะยื่นฟ้องแพ่งเรียกค่าสินไหม 50 ล้านบาท จากคนขับรถ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามลำดับ สำหรับยอดสินไหม 66 ล้านเดิมที่เคยเรียกร้อง คิดตั้งแต่อายุจะครบ 23 ปี ในวันจบการศึกษา เริ่มต้นการเป็นแพทย์ จนถึงวันเกษียณอายุราชการ โดยคิดรายได้ของแพทย์ ในอัตราวันละ 5,000 บาท ซึ่งมหาวิทยาลัยขอนแก่นไม่สามารถจ่ายให้ได้ โดยวันนี้ตั้งใจจะยื่นฟ้องแพ่งต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องอายในเหตุการณ์ทั้งหมด

นางนิตยา กล่าวต่อว่า ศาลท่านให้เหตุผลว่า มหาวิทยาลัยควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่ใช่ถนนสาธารณะ จึงอยากให้เป็นบทเรียนว่า หน่วยงานเจ้าของพื้นที่ควรแสดงความรับผิดชอบ เข้ามาเยียวยาผู้เสียหายมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามจากการปรึกษาทนายความ และเจ้าหน้าที่ศาลแล้ว เห็นว่าควรคัดสำเนาคำพิพากษาคดีอาญาของศาล แนบไปกับคำฟ้องแพ่งด้วย ฐานละเมิด เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท จากนายสุรศักดิ์ คนขับรถ รวมทั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่น และอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยใช้เวลารอสำเนาคำพิพากษา 5–7 วัน จึงคาดว่าจะสามารถยื่นฟ้องแพ่งได้ภายในสัปดาห์หน้า

ขณะที่นายรุจิวัฒน์ ศิรวงษ์วิชาญ ทนายความคดีน้องอาย กล่าวว่า เดิมที่คิดค่าสินไหมทดแทนเป็น 66 ล้านบาท มาจากการคำนวณรายได้ทั้งหมดที่คาดว่าจะได้รับ หากน้องอายจบการศึกษาออกมาเป็นแพทย์ เดือนละ 2-3 แสนบาท จนเกษียณอายุราชการ แต่ค่าขาดไร้อุปการะของญาติ จะคิดจากรายได้ทั้งหมดไม่ได้ ต้องพิจารณาถึงความสามารถในการแบ่งเงินมาดูแลบุพการี นอกจากนี้ ยังมีค่าเสียหายที่ไม่สามารถคำนวณเป็นตัวเงินได้ รวมทั้งค่าเสียหายเชิงการลงโทษ ที่รวมเรียกจาก 3 จำเลย จึงเป็นตัวเลขออกมาล่าสุดเป็น 50 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.