เมื่อวันที่ 5 ก.พ. เมื่อเวลา 07.00 น. ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐาน 12 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา ลำปาง แพร่ ลำพูน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก พิษณุโลก และสระบุรี

ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 26-94 มคก./ลบ.ม. สูงสุดระดับอันตรายสีแดงที่ ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย 94 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 15-44 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 13-54 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 14-40 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 8-19 มคก./ลบ.ม. กทม.และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ​ กทม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 13-43 มคก./ลบ.ม.

ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ : ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ สำหรับประชาชน​ที่อยู่​บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ​(พื้นที่สีแดง)​ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ โดยสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอพพลิเคชั่น Air4Thai และ AirBKK

ขณะที่ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 6-12 ก.พ. 66 พื้นที่ กทม.และปริมณฑลมีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศที่ดีเนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น และมีลมใต้ที่มีกำลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละออง ออกจากพื้นที่ ส่วนพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ มีแนวโน้มที่ควรเฝ้าระวังบริเวณภาคเหนือตอนบนและล่าง ในช่วงวันที่ 6-7 และ 9-12 ก.พ. 66

ขณะที่ เฟซบุ๊กกรุงเทพมหานคร ได้เผยแพร่ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ที่สรุปผลการตรวจวัดค่าฝุ่น PM 2.5 เมื่อช่วงเวลา 05.00-07.00 น. โดยตรวจวัดได้ 15-45 มคก./ลบ.ม. ซึ่งค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร อยู่ที่ 26.5 มคก./ลบ.ม. ทั้งนี้ค่า PM 2.5 มีแนวโน้มลดลงและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกสถานีที่มีการตรวจวัด  

โดยเมื่อช่วงเวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ 15-43 มคก./ลบ.ม. (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับช่วงวานนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกสถานีที่มีการตรวจวัด 

ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 3-9 ก.พ. 66 คาดว่าอัตราการระบายอากาศอ่อน/ดี มีฝนบางพื้นที่ จากทิศใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยพัดเข้ามาปกคลุมแทนที่ลมหนาว ส่วนมวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมเริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีอุณหภูมิสูงขึ้น กลางวันอากาศร้อน ส่งผลให้การสะสมของฝุ่นละออง PM 2.5 มีแนวโน้มลดลง และวันนี้พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ และช่วงวันที่ 6-11 ก.พ. 66 พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศที่ดี เนื่องจากสภาพอากาศที่เปิดมากขึ้น มีลมใต้ที่มีกำลังค่อนข้างแรงช่วยพัดพาฝุ่นละออง ออกจากพื้นที่ 

จากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA ขณะนี้ไม่พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ