ตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถลงการณ์เรื่องเงินสนับสนุนให้สโมสรไทยลีก 1-3 ตอนนี้ติดขัดปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน จะรีบมอบให้ภายในเดือน มี.ค. ทั้งนี้เงินสนับสนุนงวดแรกที่จ่ายไปนั้น ก็ยังไม่ครบจำนวน

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า โควิด-19 ส่งผลกระทบทั่วโลก ภาคเอกชนที่เคยสนับสนุนลดน้อยลง จำนวนเงินลดลง สมาคมฯ พยายามบริหารจัดการอย่างเต็มความสามารถ แต่ก็ไม่ได้ดูแค่ฟุตบอลสโมสร แต่ยังมีทีมชาติทุกรุ่นอายุที่ต้องใช้เงินเช่นกัน ไม่ใช่ว่าฟุตบอลลีกหรือสโมสรไม่สำคัญ แต่ถ้าตัดทีมชาติมาให้สโมสรก็ทำไม่ได้เช่นกัน ส่วนเงินที่ กกท.(การกีฬาแห่งประเทศไทย) หรือรัฐบาลสนับสนุน ทางสมาคมฯ ก็ต้องบริหารจัดการด้วยการใช้เงินสำรองของสมาคมฯ จ่ายไปก่อน แล้วพอแข่งเสร็จถึงนำใบเสร็จไปเบิกกับ กกท. แล้วก็ไม่ได้ครบเต็มจำนวนด้วย ได้แค่บางส่วนเท่านั้น

“บางครั้งแฟนบอลหรือเจ้าของทีม ไม่ได้มองภาพรวม ถ้ามัวแต่ให้สโมสรอย่างเดียว แต่ทีมชาติแข่งไม่ได้ มันก็เสียหายถึงภาพลักษณ์ของประเทศไทยเช่นกัน” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว พร้อมระบุว่า นอกจากนั้น ยังมีค่าจัดการแข่งขันต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ถ้าไม่เอาเงินไปจ่ายค่ากรรมการ, วีเออาร์, ถ่ายทอดสด หรือส่วนต่างๆ ที่ต้องทำให้การแข่งขันเกิดขึ้นได้ เพื่อไปรับเงินจากสปอนเซอร์ หากแข่งไม่ได้ก็จะเดือดร้อนกันไปทั้งหมด

ประมุขบอลไทย กล่าวด้วยว่า สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่โทษใคร เกิดโดยไม่ตั้งใจ แต่อยากให้เข้าใจ สมาคมฯ ว่าไม่ได้ถือเงินเพื่อรอแจกจ่ายให้สโมสรอย่างเดียว ต้องบริหารจัดการทุกองค์ประกอบ สมาคมฯ ชุดนี้ไม่เคยค้างเงินผู้ตัดสินเป็น 1-2 ปี แบบยุคก่อนๆ ตัดสินเสร็จก็ได้เงินทันที

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า สำหรับค่าถ่ายทอดสดก็ได้ลดลง จากเดิม 900 ล้านบาทต่อปี เหลือ 300-400 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนคำถามถึงเงินการันตีจาก แพลนบี นายกบอลไทย กล่าวว่า เงินที่ได้อยู่ในวงเงินการันตีแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ และเงินเองไม่ได้มาแบบรวดเดียว มีข้อสัญญาว่าต้องแข่งขันก่อนถึงจะจ่ายเงิน

“แพลนบีหาเงินได้เท่ากับที่รับปาก เพราะเขาไม่ยอมเสียส่วนต่างแน่นอน ใครถอนออกไปก็ต้องหาเงินไปอุดแทน เพียงแต่มันไม่ง่ายในสถานการณ์เศรษฐกิจแบบนี้ แต่ปัญหาอีกข้อคือ สปอนเซอร์เองก็ยังไม่ได้จ่ายเงินให้แพลนบี เพราะฟุตบอลมันต้องแข่งก่อนถึงจะไปวางบิลเบิกจากสปอนเซอร์ แล้วเอาเงินมาให้สมาคมฯ ได้”

เมื่อถามว่า เมื่อฟุตบอลสามารถเดินหน้าแข่งได้อย่างต่อเนื่อง แสดงว่าปัญหาหลังจากนี้จะหมดลงไปใช่หรือไม่ ทาง บิ๊กอ๊อด กล่าวเพียงว่า ปีนี้ทางสมาคมฯ ตั้งเป้าว่า จะเคลียร์หนี้สินเก่าๆ ให้หมด ได้ขอความร่วมมือกับสโมสรในการลดเงินสนับสนุน ซึ่งแพลนบีเองก็หาได้เท่าที่กำหนดแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอเพราะค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตามยุคสมัยด้วย อย่างเช่นผู้ตัดสินเองจากเดิม 4 คน ก็เพิ่มเป็น 7 คน เพราะมีวีเออาร์ แต่ภูมิใจได้ว่าเป็นชาติเดียวในอาเซียนที่มีวีเออาร์ใช้.