เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ สภ.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี นายนัฐพงศ์ คำไสว อายุ 22 ปี และนายอภิชัย เพ็งวัน อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยไทย-อินโดจีน มาฝึกงานที่ร้านสะดวกซื้อ ได้นำกระเป๋าสตางค์ ที่มีเงินอยู่ข้างในจำนวน 7,000 บาท และบัตรประชาชน ที่ตกอยู่ข้างทางมาส่งมอบให้ นางมาลี นาลีจันทร์ อายุ 69 ปี อาชีพค้าขาย ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อย

คุณยายมาลี นารีจันทร์ อายุ 69 ปี อาชีพค้าขาย กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปกับสามี เลยไม่รู้เรื่องว่าสามีไปทำกระเป๋าหล่นหายตอนไหน สามีของตนออกจากบ้านไปหาหนอนแถวบางพระ เพราะเคยไปแล้วหาได้ ก่อนทาง อบต.ให้ลูกน้องวิ่งมาบอกว่ามีคนเจอกระเป๋าสตางค์ของสามี ให้ไปรับอยู่ที่โรงพัก ตนเลยถามกลับว่าจะมาเอาเองได้ยังไงมันคนละคน แต่ทาง อบต.บอกให้มาเอาได้ เอาบัตรประชาชนของสามีไปรับแทน เงินตรงนี้เป็นเงินที่สามีขายปลาได้วันละพัน ขายตะพาบ 2-3 วันก็ได้เป็นหมื่น ถ้าเงินตรงนี้หายไปก็เสียดาย ตนก็ด่าสามีอยู่เรื่อยว่าถ้าไปหาปลาจะพกกระเป๋าสตางค์ไปทำไม ถ้าหายขึ้นมาเสียดายมั้ย เขาก็บอกไม่ให้ตนพูด พอรู้ว่าหายก็คงหาน่าดู ถ้ากลับมาบ้านคงใจสั่นเพราะเอกสาร บัตรอะไรก็อยู่ในกระเป๋าหมด

นายนัฐพงษ์ คำไสว อายุ 22 ปี นักศึกษาฝึกงาน กล่าวว่า ตนเดินทางมาจากบางใหญ่ กำลังจะไปวัดหลวงพ่อเปิ่น ขี่รถมาตามทางเจอกระเป๋าสตางค์ตกอยู่ เลยขี่รถย้อนกลับมาดู พอเปิดดูเจอเงินในกระเป๋า ดูเอกสารว่าเป็นของใคร และตามหาจากที่อยู่ในบัตรประชาชน ขากลับจากวัดหลวงพ่อเปิ่น จึงได้ขี่รถมาที่ สภ.ไทรน้อย เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยตามหาเจ้าของกระเป๋า

“เห็นเงินมันเยอะมาก เห็นบัตรประชาชนเป็นของคนสูงอายุด้วย เลยเห็นใจ อยากทำความดี และเพิ่งไปทำบุญกลับมาจากวัดด้วย ตอนนี้ผมมาฝึกงาน เรียนอยู่ที่วิทยาลัยไทย-อินโดจีน จ.นครพนม ฝากถึงคนที่เก็บของได้ก็อยากให้คืนเจ้าของ ถ้าไม่ใช่ของเราอย่าไปเอาเลย” นักศึกษาฝึกงาน กล่าว.