เมื่อวันที่ 26 ก.พ. เพจเฟซบุ๊กอีซ้อขยี้ข่าว 2 ได้มีการแชร์ภาพถ่ายชายหญิงคู่หนึ่ง มีอะไรกันบนสะพานลอย พร้อมระบุข้อความว่า “คลุกเข่ากระเซ้ารัก หนุ่มสาวเปลี่ยนบรรยากาศโชว์ลีลาโจ่งครึ่ม มุดถ้ำบุกรังเป็ดกันอยู่บนสะพานลอยแห่งหนึ่งกลางเมืองพิษณุโลก ในช่วงเวลากลางวันแสก ๆ ตรงบริเวณทางข้ามที่หน้าวิทยาลัยเทคนิคชื่อดัง ซึ่งหลังจากที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ได้มีชาวโลกออนไลน์เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า บริเวณที่เกิดเหตุเป็นสะพานลอยอยู่หน้าโรงเรียนเทคนิคพณิชยการพิษณุโลก ติดถนนเส้นมิตรภาพ อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งอีกฝั่งถนนตรงข้ามกันเป็นคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ที่คาดว่ามีผู้ที่พักอาศัยอยู่บนคอนโดฯ เห็นเหตุการณ์คู่รักชายหญิงทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงระเริงรักกัน ในช่วงกลางวันแสก ๆ แบบไม่อายฟ้าไม่อายดิน จึงถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนำไปโพสต์ลงกลุ่มพิษณุโลกบ้านเราเช่นกัน

จากการตรวจสอบพบว่าข้างบนสะพานนั้นไม่มีใครอยู่ แต่อย่างใดแต่พบหมอน 2 ใบ สภาพเก่าเปื้อนคราบฝุ่น และผ้าห่มสีเหลือง 1 ผืนซุกซ่อนเอาไว้ในที่ลับตาคน เพราะเป็นสะพานค่อนข้างทึบ นอกจากนี้ บนสะพานลอยดังกล่าวยังพบกองขยะและเศษวัชพืชถูกทิ้งไว้แบบไร้หน่วยงานรับผิดชอบเหลียวแลอีกด้วย

สอบถาม นายเสน่ห์ กล่ำโพชน์ อายุ 58 ปี รปภ.คอนโดมิเนียม เปิดเผยว่า สะพานลอยแห่งนี้ปกติแล้วจะมีนักเรียน นักศึกษา และคนวัยทำงาน เดินข้ามใช้กันทุกวัน ซึ่งตนเองก็ไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น คาดว่าอาจจะเป็นพวกคนเร่ร่อนที่มาอาศัยอยู่ตามสะพานลอยก็เป็นได้ ซึ่งจะได้ไปแจ้งกับหัวหน้า รปภ. ทั้งกะดึกและกะเช้า คอยช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย เนื่องจากผู้ที่พักอาศัยภายในคอนโดฯ ก็ใช้สะพานลอยเดินข้ามถนนเช่นกัน จึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบดูแลแก้ไขจุดเสี่ยงจุดอันตรายบนสะพานแห่งนี้ด้วย

ขณะที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที ก่อนจะนำหมอนและผ้าห่มที่ปรากฏเป็นหลักฐานนำไปทิ้ง พร้อมจะออกตรวจตราอย่างเข้มงวดกวดขัน เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นบนสะพานลอยในจุดเสี่ยงต่าง ๆ ในพื้นที่ทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดช่วงเวลา 24 ชม. เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ แขวงทางหลวงพิษณุโลก ให้เข้ามาดูแลแก้ไขจุดเสี่ยง หรือจุดลับตาคนบนสะพานลอย ส่วนผู้ที่กระทำความผิดในครั้งนี้จะได้ติดตามหาตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.