เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีแรงงานไทยผิดกฎหมายลักลอบทำงาน เสียชีวิตในเล้าหมูที่เกาหลีใต้ ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจาก นายนิธิพัฒน์ วัฒนสุวกุล อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ที่ได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ทราบว่า แรงงานที่เสียชีวิตชื่อ นายบุญชู ประวะเสนัง อายุ 67 ปี ภูมิลำเนาเป็นคนขอนแก่น ไม่ได้แจ้งการเดินทางผ่านกรมการจัดหางาน และไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เสียชีวิตใกล้เคียงสถานที่ทำงานในฟาร์มหมู เขตเมืองโพชอน ของเกาหลีใต้ โดยพบศพบริเวณร่องน้ำระหว่างเขากับสวนด้านหลัง เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต และอยู่ระหว่างรอผลชันสูตรพลิกศพอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตอาจเสียชีวิตเพราะปัญหาสุขภาพ หรือเพราะสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขอนามัย หรือเพราะอากาศ แต่เนื่องจาก นายคิม ซึ่งเป็นนายจ้าง นั้นได้มีการจ้างงานแบบผิดกฎหมาย เมื่อพบว่าเสียชีวิตจึงไม่กล้าแจ้งความ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายจ้าง พร้อมตั้งข้อหาซ่อนเร้น อำพรางศพ และกำลังสอบสวนลูกชายของนายจ้างว่ามีส่วนร่วมหรือไม่ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ประสานงานในเรื่องคดีกับทางการสาธารณรัฐเกาหลีแล้ว ขณะเดียวกัน ฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบติดตามสิทธิประโยชน์ที่พึงมีของ นายบุญชู อาทิ ค่าจ้างค้างจ่าย เป็นต้น

ด้าน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้แรงงานจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ร่วมกับจังหวัดขอนแก่น ไปเยี่ยมบ้านของผู้เสียชีวิต เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ครอบครัว ซึ่งได้ไปพบกับ น.ส.มะลิ ภรรยาของผู้เสียชีวิต เป็นอาสาสมัครแรงงานตำบลทางขวาง อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น จากการพูดคุย ทราบว่า น.ส.มะลิ มีบุตรชาย 1 คน อายุ 34 ปี ซึ่งทั้ง 2 คน จะเดินทางพร้อมบุตรชายไปจัดการศพนายบุญชูที่เกาหลีด้วยตัวเอง ในวันที่ 10 มี.ค.นี้ โดย นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้มอบเงิน 10,000 บาท ให้แก่ภรรยาของผู้เสียชีวิตด้วย ในส่วนของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดขอนแก่น ยังได้แจ้งสิทธิประโยชน์ประกันสังคมที่ผู้เสียชีวิตเคยเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 มีเงินบำเหน็จชราภาพอยู่ประมาณ 1,700 บาท เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ดังกล่าวให้แก่ทายาทตามกฎหมายต่อไป

นายบุญชอบ กล่าวว่า ขอเตือนแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ ขอให้เดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากเข้าไปทำงานแบบผิดกฎหมายจะไม่ได้รับการดูแลตามสิทธิที่พึงมี หากเจ็บป่วยในต่างประเทศค่าใช้จ่ายจะสูงมาก และยังมีโอกาสถูกนายจ้างเอาเปรียบได้ ทั้งนี้ การไปทำงานต่างประเทศถูกกฎหมายมี 5 วิธี ได้แก่ 1.กรมการจัดหางานจัดส่ง 2.บริษัทจัดหางานจัดส่ง 3.นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ 4.นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ และ 5.คนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง  นอกจากนี้ยังขอให้สมัครเป็นสมาชิกเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะได้รับสิทธิประโยชน์การคุ้มครอง หากประสบอันตราย เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ หรือประสบปัญหาในต่างประเทศ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมการจัดหางาน หรือ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 กด 2