เมื่อวันที่ 6 เม.ย. รศ.นพ.กรภัทร มยุระสาคร โพสต์เล่าเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊ก หมอนัดโภชนาการ เป็นเหตุฉุกเฉิน มีคนที่ไปวิ่งในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน เครื่อง AED ในสวนใช้การไม่ได้ รถฉุกเฉินมาช้า โชคดีที่มีพยาบาลวิ่งออกกำลังกายอยู่ มาช่วยปั๊มหัวใจจนชีพจรกลับมา โดยเล่าเหตุการณ์ว่า

“อยากเล่าดัง ๆ เพื่อก่อนะครับ หน้าร้อนวิ่งอย่าหักโหมครับ ผมวิ่งประจำที่สวนใกล้บ้าน ซึ่งห่างจาก รพ. 3.5 กม. เพื่อนนักวิ่งผมไปวิ่งกับครอบครัว หลายวันก่อน เกิดอาการหัวใจหยุดเต้น (ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์) แต่ก็คงจะพยายามเข้าใจ เห็นบอกว่ามีประชาชนไปช่วย กดปั๊มหัวใจ CPR จนความโชคดี มีนางฟ้าพยาบาลสองท่าน วิ่งอยู่ในสวนจึงรุดเข้าไปช่วยทำ CPR มาตรฐาน ราว 30 นาที

ทางสวนได้นำเครื่องช่วยชีวิต ผมคิดว่าน่าจะเป็นเครื่อง AED กระตุ้นหัวใจไฟฟ้า มาอำนวยความสะดวก แต่กลับพบว่า สองเครื่องนี้เสีย และรอการซ่อม! ทางหัวหน้าบอกที่หลังว่า ส่งซ่อมแล้วแต่แค่ยังไม่ได้ซ่อม

รถฉุกเฉินและกู้ชีพ มาถึงหลัง CPR ไปแล้ว น่าจะ 30 นาที จนภรรยาคนไข้ร้องไห้จะเป็นจะตาย ทุกคนถามว่า รพ. ห่างจากสวน 3.5 กม. และเป็นเหตุวันหยุด รถไม่มี รถน้อย แต่ผมเข้าใจระบบนะคือ เราต้องโทร. 1669 รถฉุกเฉินจะไม่ได้มาจาก รพ. โดยตรง

เพื่อนในเหตุการณ์ ได้คำตอบมาว่า รถกู้ชีพ วันหยุด จะมีน้อย และรถยนต์มันบินไม่ได้ ต้องรอ อันนี้ก็คิดว่า ในสถานการณ์คับขัน คงใจร้อนกัน เลยพูดไม่ดี เข้าใจได้ โชคนี้คนป่วยรอดชีวิตนะครับ ผมขอชื่อชมคุณพยาบาลที่ปั๊ม 30 นาที

ประเด็นช่วงนี้คือ ผมอยากให้ กทม. ผู้ว่าฯ ชัชชาติ และสวนทุกแห่งในไทย ลองเรียกอุปกรณ์ในสวน มาตรวจสอบนะครับ ว่าพร้อมกู้ชีพ กู้ภัยไหม

ผมเสนอ

1. จัดอบรมกู้ชีพในสถานที่สาธารณะ ให้กับประชาชน

2. เครื่อง AED อยู่ตรงไหนของสวน บอกให้ขึ้นใจ

3. ซ้อมแผนฉุกเฉินปีละครั้ง”

คุณหมอกรภัทร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมเพจโหนกระแสว่า ในที่เกิดเหตุ ยังมีคนพยายามเอาช้อนไปใส่ปากคนป่วย เพราะกลัวกัดลิ้น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดมากๆ ข้อแนะนำของคุณหมอคือ

1. ห้ามเอาอะไรใส่ปากคนป่วย

2. อย่ามุง เพราะทำให้อากาศลดลง

3. ถ้าไม่ร้อนมากในที่เกิดเหตุ อย่าเคลื่อนย้ายคนเจ็บ ยกเว้นมั่นใจว่า กระดูกต้นคอไม่เคลื่อนหรือหัก

ล่าสุดทราบว่า เครื่อง AED ของทางสวน กลับมาใช้ได้แล้ว 1 เครื่อง

ขอบคุณเพจ หมอนัดโภชนาการ และโหนกระแส