สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองกว่างโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน นำประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เดินทางไปยังเมืองกว่างโจว ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภูมิภาคทางตอนใต้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ ผู้นำจีนเป็นเจ้าภาพเลี้ยงน้ำชาให้แก่ผู้นำฝรั่งเศส ณ เรือนรับรองผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเคยเป็นสถานที่ทำงานและสถานที่พำนักของ นายสี จงชุน บิดาของผู้นำจีน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง


นอกจากนี้ กว่างโจวยังถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และการทูตระหว่างฝรั่งเศสกับจีน เนื่องจากเป็นเมืองท่าของจีนแห่งแรก ที่ฝรั่งเศสล่องเรือสินค้ามาจอดเทียบท่า เมื่อศตวรรษที่ 17 และเป็นเมืองแห่งแรกในจีน ที่ฝรั่งเศสเปิดสถานกงสุลใหญ่ด้วย


ขณะเดียวกัน ผู้สันทัดกรณีทางการทูตให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่า การเลี้ยงน้ำชาและการชมเมืองกว่างโจว เป็นการต้อนรับที่จีนมอบให้แก่ผู้นำต่างประเทศในระดับที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และสะท้อนความมุ่งมั่นของรัฐบาลปักกิ่ง ในการยกระดับความสัมพันธ์กับหนึ่งในประเทศที่ถือเป็นสมาชิกหลักของสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อสนับสนุนการต่อต้าน “การกีดกัน การปิดล้อม และการยับยั้ง” โดยสหรัฐ

ขณะที่อีกนัยหนึ่ง อาจเป็นความพยายามทางการทูตของจีน ในการป้องกันไม่ให้ยุโรปรวมกลุ่มกันอย่างแน่นแฟ้นกับสหรัฐ “มากไปกว่านี้”


หนึ่งในเป้าหมายการเยือนจีนของมาครง แน่นอนคือ “การพยายามโน้มน้าว” ให้รัฐบาลปักกิ่งแสดงท่าที “ที่ชัดเจน” กระนั้น “เป็นที่ชัดเจน” ว่า ผู้นำฝรั่งเศสแทบไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้ โดยสีไม่ได้กล่าวอะไรอย่างเป็นทางการ และไม่เอ่ยถึง “ความเป็นไปได้” ในการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน.

เครดิตภาพ : REUTERS