เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านตำบลหนองตะไก้ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา รวมตัวกันริมถนนสาย 24 สีคิ้ว-เดชอุดม (โคราช-อุบลราชธานี) กม.24+200 เชื่อมระหว่าง อ.สูงเนิน-อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตรวจจับความเร็วบริเวณดังกล่าว ช่วงทางเลี้ยวจุดกลับรถ ซึ่งคาดว่าเป็นของตำรวจทางหลวง จุดที่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันสัญจรเป็นประจำ ภายหลังปรากฏมีใบสั่งเรียกเก็บค่าปรับ ระบุว่าเป็นของกองกำกับการ 6 ตำรวจทางหลวง จ.อุบลราชธานี ส่งมาถึงชาวบ้านครอบครัวละ 5-6 ใบ

ตรวจสอบพบว่า ชาวบ้านในหมู่บ้าน และตำบลเดียวกันทุกคน รวมแล้วกว่า 200 ใบ ซึ่งจุดบริเวณดังกล่าว ไม่สามารถใช้ความเร็วได้เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยซ้ำ เพราะเป็นจุดกลับรถ ต้องลดความเร็วอยู่แล้ว จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง มาตรวจสอบกล้องตัวดังกล่าวด้วยว่า มีปัญหาผิดปกติหรือไม่

นายอรุณ ตะสูงเนิน อายุ 60 ปี ตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า ขับรถผ่านจุดนี้ทุกวัน ไม่ได้ขับเร็วเลย เพราะเป็นช่วงยูเทิร์น เปิดไฟเลี้ยวกลับรถ ต้องลดความเร็วอยู่แล้ว รู้สึกงงมากกับเหตุการณ์ที่โดนถ่ายภาพรถจับความเร็ว ยืนยันขับไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแน่นอน เพราะเป็นรถเก่า สภาพทรุดโทรม และเป็นรถขายน้ำปลา ประกอบกับบริเวณก่อนกลับรถและตรงจุดติดตั้งกล้อง ก็ไม่มีป้ายเตือนตรวจจับความเร็ว แต่มีใบสั่งส่งมาที่บ้านหลายใบ บางครอบครัวเจอใบสั่ง 3-4 ใบ รวมๆ ทั้งหมู่บ้านกว่า 200 ใบ ในช่วงระยะเวลา 1-2 เดือน ชาวบ้านเลยเกิดข้อสงสัยว่า ใบสั่งจริงหรือปลอม กลัวเป็นมิจฉาชีพหลอกให้ชาวบ้านชำระค่าปรับเหมือนที่เคยปรากฏในข่าว จึงอยากให้มาตรวจสอบกล้องด้วยว่ามีปัญหาหรือไม่ เพราะโดนแบบนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก แค่ใบสั่ง 1 ใบ ก็แย่แล้ว แต่โดนบ้านละ 5-6 ใบ รู้สึกไม่ดี ตอนนี้จึงยังไม่ยอมจ่ายค่าปรับ จนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถาม ร.ต.ต.ณัฐเศรษฐ ฉายแสง หัวหน้าหน่วยบริการทางหลวง อ.สูงเนิน ได้รับการยืนยันว่า ใบแจ้งค่าปรับนั้นเป็นของหน่วยงานตำรวจทางหลวงจริง แต่ไม่ทราบว่ากล้องที่จับความเร็วมีปัญหาหรือไม่ ทั้งนี้ จะรับเรื่องแล้วรีบรายงานไปยัง กองกำกับการ 6 ตำรวจทางหลวง จ.อุบลราชธานี ให้มาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาต่อไป