เมื่อวันที่ 10 เม.ย. จากกรณี ลีน่า จัง เข้ากระชากวิกผม แพรรี่ ไพรวัลย์ ระหว่างถ่ายทำรายการของ มดดำ คชาภา จนล่าสุดมีการไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก เปิดศึกโต้ตอบกันไปมาระหว่างคู่นี้ ถึงขั้น แพรี่ ไพรวัลย์ ประกาศไม่ขอร่วมงานด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด ลีน่า จังจรรจา หรือ ลีน่า จัง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วัลลภ อิสริยสกุลวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พญาไท เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ แพรี่ ไพรวัลย์ ในข้อหา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมนำเอกสารหลักฐานทั้งโพสต์ในเฟซบุ๊กต่อว่าตัวเองด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงคอมเมนต์ของกลุ่มแฟนคลับแพรรี่ มามอบให้พนักงานสอบสวนด้วย

ลีน่าจัง กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวทำให้ตนเครียดจนเส้นเลือดในสมองจะแตก เครียดจนลืมกินยา ทั้งที่สาระสำคัญของเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่เดินทางไปถ่ายทำรายการให้ มดดำ คชาภา ที่เพิ่งเปิดรายการใหม่ โดยตอนนั้นตัวเองไม่รู้ว่าจะมีแขกรับเชิญ คือ แพรรี่ ไพรวัลย์ มาร่วมด้วย แต่เมื่อได้เจอกัน ก็มีการพูดคุยหยอกล้อเล่นกันไปมาตามประสาคนที่เคยรู้จักและเคยร่วมงานกันมาแล้วประมาณ 2 ครั้ง

“ลีน่า จัง” ออกมาพูดแล้ว ย้ำกระชากวิกผม “มันคือการแสดง!!”

โดยเนื้อหาการพูดจาทั้งหมดเป็นการหยอกล้อเล่นกันไปมา ก็มีทั้งคำพูดจิกกัด คำพูดหยอกล้อกันปกติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวเองที่ถูกจิกกัดมากกว่า แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเป็นเรื่องตลกขำๆ เพื่อความบันเทิงและเอ็นเตอร์เทนกันทั่วๆ ไป และอีกอย่างไม่อยากให้เกิดบรรยากาศตึงเครียด เพราะตัวเองนั้นก็ให้เกียรติมดดำ จนมาถึงช่วงถ่ายภาพนิ่งตอนช่วงท้าย ตัวเองก็ไม่ได้คิดอะไร มองว่าเป็นการหยอกล้อเล่นกันจึงได้มีการกระชากวิกผมของแพรรี่ด้วยความเอ็นดู ตัวเองเอ็นดูเหมือนลูกสาว ซึ่งหลังจากกระชากวิกผมออกตอนนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรทุกคนยังยิ้มแย้มและหัวเราะ รวมถึงแพรรี่ที่ไม่ได้มีท่าทีว่าจะโกรธเคืองตัวเอง

ต่อจากนั้นผ่านไปไม่ถึง 5 นาที หลังจากที่แพรรี่กลับออกไป ได้มีทีมงานนำไลฟ์สดมาให้ดูว่าแพรรี่ร้องไห้ และรู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนั้นตัวเองค่อนข้างงง และยังได้ขอโทษผ่านรายการของมดดำไปแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่จบมีการไลฟ์สดด่าตัวเองด้วยถ้อยคำหยาบคาย รวมถึงมีคอมเมนต์ของกลุ่มแฟนคลับที่มาต่อว่าตัวเองด้วยเช่นกัน ซึ่งมีทั้งข้อความข่มขู่ว่าจะบุกมาถึงที่บ้านมาทำร้ายร่างกาย ทำให้ตัวเองกังวลและมีความเครียดมาก

ลีน่า จัง กล่าวต่ออีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เหมือนแพรรี่เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ก็เรียกคะแนนความสงสารและต้องการที่จะโปรโมตหนัง เพราะมีฉากกระชากวิกของแพรรี่ในหนังเรื่องเสือเผ่น 1 ของ พชร์ อานนท์ อยู่ด้วย รวมถึงโปรโมตเพลง รวมถึงน้ำพริกที่ขายอยู่ เพราะหลังจากมีประเด็นดังกล่าวออกไป ยอดขายน้ำพริกเห็นว่าขายดีอย่างถล่มทลาย แต่ตัวเองกลับต้องมาเป็นจำเลยสังคม และยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นการแสดง ไม่ได้มีเจตนาทำให้อับอาย

โดยหลังแจ้งความเรียบร้อย ลีน่า จัง บอกกับทีมข่าวอีกว่า หลังจากนี้ ก็ยังพร้อมที่จะร่วมงานกับ แพรรี่ ไพรวัลย์ เนื่องจากตัวเองมีสปิริตมากพอ.