จากกรณี นางสรารัตน์ หรือ แอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี เท้าแชร์ใน จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาลักทรัพย์ ได้กระทำความผิดนำสารเคมีไซยาไนด์มาใช้วางยาจนปรากฏผู้เสียชีวิต และผู้ที่คาดว่าเสียชีวิตจากไซยาไนด์กว่า 13 ราย เนื่องด้วยหวังเอาทรัพย์สินและฆ่าล้างหนี้จากการทำวงแชร์ รวมถึงขณะนี้ เจ้าตัวยังอยู่ระหว่างการฝากขังผัดแรกของพนักงานสอบสวน ภายในทัณฑสถานหญิงกลาง และยังตั้งครรภ์ 4 เดือนอยู่ด้วยนั้น และล่าสุดนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวนได้ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส และหยิบยกเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายเว้นโทษประหารชีวิตหญิงตั้งครรภ์ จนลูกอายุ 3 ขวบ แล้วให้ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งแอมจะไม่ต้องรับโทษประหาร ถึงแม้พิสูจน์ได้ว่าเป็นคดีวางยาต่อเนื่องนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 28 เม.ย. ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กล่าวว่า ในกรณีที่ น.ส.แอม มีการตั้งครรภ์ และสมมุติว่ามีการกระทำความผิดจริง รวมถึงศาลสั่งลงโทษประหารชีวิต ก็จะได้รับการลดโทษเป็นการจำคุกตลอดชีวิตแทน เนื่องจากตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 247 วรรคสอง ถ้าจำเลยคนใดต้องโทษประหารชีวิต ถ้าตั้งครรภ์อยู่ ให้รอไว้จนกว่าจะพ้นกำหนด 3 ปี นับตั้งแต่วันคลอดบุตรและให้ลดโทษประหารชีวิตลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต ดังนั้น หากในวันหนึ่งสมมุติว่า น.ส.แอม ถูกศาลพิพากษาประหารชีวิตจากฐานความผิดฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นฆาตกรรมต่อเนื่อง ก็จะได้รับการลดโทษจากโทษประหารเหลือจำคุกตลอดชีวิต โอกาสที่ น.ส.แอม จะถูกโทษประหารชีวิตจึงไม่เกิดขึ้นเลย อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีโทษประหารชีวิตครั้งสุดท้ายคือ ปี 2546 จากนั้นไม่มีการประหารชีวิต

ทนายเดชา กล่าวอีกว่า และถ้าหาก น.ส.แอม บ้าหรือวิกลจริต ตามกฎหมายระบุว่า จะต้องนำตัวไปรักษาให้หาย ตามมาตรา 248 และเมื่อหายแล้วก็ต้องลดโทษประหารชีวิตลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต ดังนั้น แอม ไซยาไนด์ สมมุติถ้ากระทำความผิดจริง จะลงโทษได้แค่จำคุกตลอดชีวิต ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 247 และมาตรา 248.